อันนี้ เป็นประสบการณ์ที่ดีส่วนตัวนะคะ ...เนื่องจากเพิ่งเริ่มที่จะสวดมนต์ปฎิบัติธรรมอย่างจริงจังมาได้เพียง 4-5 วันมานี้ (อย่างจริงจังในที่นี้คือ ไม่เคยทำแบบตั้งใจมากขนาดนี้มาก่อน ตลอดจนไม่เคยถวายข้าวพระพุทธ แต่ครั้งนี้ ตั้งมั่นแล้วว่าจะสวดมนต์ทุกวัน ทุกบท ระลึกถึงพระคุณแห่งพุทธศาสนาทั้งปวง) ... ในแต่ละวันที่เริ่มทำ ก็ได้อ่านเรื่องราวพุทธคุณต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์เจ้า และพระอริยสงฆ์เจ้าต่าง ๆ  รู้สึกสนุก ชอบ และประทับใจ 2-3 วันแรก ได้พูดคุยกับสามี เรื่องพระธาตุว่า สามารถอันเชิญเองได้นะ ถ้าภวนาถึงฌาณได้แบบบรรดาพระอาจารย์ทั้งหลาย มีประสบการณ์เล่าไว้ จากท่านต่าง ๆ อีกด้วยว่า หากนับถือบูชาด้วยจิตบริสุทธิ์ จะมีเหตุให้ต้องได้พระธาตุนี้มาด้วยกุศลอานิสงฆ์ที่ได้ทำไป...   ตอนเล่าให้สามีฟังก็รู้สึกตื้นตัน ..(คือเวลาเราอ่านเรื่องต่าง ๆ มักจะอิน ถ้าอันไหนเราทำไม่ดีแบบเรื่องนั้น ๆ จะสำนึกบาป ร้องไห้ตลอด หรือหากสงสารเรื่องนั้น ๆ การกระทำบุคคลนั้น ๆ ก็ร้องไห้ตลอดเช่นกัน แบบเข้าใจว่า เค้าทำเพราะอะไร ทำโดยทั้งตั้งใจ ทั้งไม่ตั้งใจ..ซึ่งก็น่าสงสาร และให้เข้าใจดีขึ้นในเรื่องกรรม) ...เรื่องพระธาตุนี้เอง.. ขณะพูดเล่าให้สามีฟัง ใจก็นึกอยากได้ไว้บูชา แต่ก็ไม่ทราบจะไปหาได้ที่ไหน และไม่เคยรู้จักชมรมนี้มาก่อนเลย (เนื่องจากแต่ก่อนไม่ได้สนใจธรรมะใด ๆ เพราะมัวแต่เอาเวลาไปทำงานยุ่งตลอด จิตก็วุ่นวาย)  ....และปาฎิหาริย์จากการปฎิบัติธรรม ปฎิบัติบูชาก็เกิดขึ้น ....เนื่องด้วยที่ช่อง 3 จัดงานพุทธชยันตีขึ้นที่ผ่านมาเมื่อ 28 พ.ค.นี้ ได้ชวนคุณสามีให้เดินทางไปร่วมงาน (ทั้งนี้ได้นัดคุณแม่ไว้ให้มาร่วมงานด้วย) สามีจู่ ๆ ก็บอกว่า เออ ก็น่าสนใจดี ไปก็ได้ ซึ่งปรกติเธอจะไม่ชอบไปงานประเภทจัดนิทรรศการ เพราะไม่ชอบคนเยอะ และเธอชอบที่จะเข้าใจโลกเป็นธรรมดาว่า ไปก็มีแต่แบบนี้ แบบนั้น ตอนชวนก็กลัวว่า จะอดไป เพราะเธอมักบอกว่า อย่าไปโน่นไปนี่เลย มันไม่มีอะไรหรอก ..     เวลานัดแบบนี้ มักไม่ค่อยได้ไป เธอก็จะให้แม่มาหาที่บ้านเลย... แต่คราวนี้ คงด้วยอานิสงฆ์ที่ทำแม้เพียงไม่กี่วันก็ตาม เธอไปด้วย...เราไปไม่ทันงานนัก (ไปสาย) เพราะว่าดิฉันสวดมนต์กว่าจะเสร็จก็เกือบเที่ยงแล้ว งานมีสวดตอนเที่ยงกว่า ไปถึงเค้าก็สวดกันแล้ว..รู้สึกเสียดาย แถมไม่มีหนังสือให้สวดตาม ...คุณแม่ซึ่งไปรออยู่ก่อนก็บอกแม่มาไม่ทัน หนังสือหมดก่อน ก็โอเค ไม่เป็นไร สวดไปสักครู่ เราสามคนก็ไปเดินดูงาน สามีก็ไม่ค่อยอยากไปดูอะไรหรอก เพราะเธอดูโดยรวมแล้วก็เข้าใจโลกบอกไม่มีอะไร แต่คุณแม่เราแจ้งว่า เดินไปดูในโน้นก่อนนี้ก่อน ชี้ชวน เธอไม่อยากขัด ก็เลยเดินไปดูโน่นนี่...สรุปว่า เข้าไปในอาคาร มีนิทรรศการ แม้จะเล็ก แต่ก็ถือว่า ดีแล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นภาพงานศิลปะเกี่ยวกับพุทธประวัติ ภาพวาดสวยมาก ๆ จริง ๆ คุณสามีเธอชอบศิลปะเป็นทุน ก็ถ่ายรูปเก็บไว้  ภายในยังมีองค์พระบรมสารีริกธาตุตั้งตระหง่านให้ได้สักการะ ทุกคนก็ประนมสวดบูชากัน อีกทั้งมีหน่อพระศรีมหาโพธิ์ด้วย เมื่อเดินชมภาพทั้งหมดแล้ว ก็จะกลับ...ก็เดินไปตรงที่เป็นทางออกอันหนึ่ง มีโต๊ะตั้งแสดงเกี่ยวกับพระธาตุอยู่ .... เราก็เดินไปดู...ปรากฎ ทางชมรมรักษ์พระธาตุมาตั้งแสดงพร้อมกับแจกพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้ไปสักการะบูชา ... สำหรับความรู้สึกตอนนั้น เหมือนปาฎิหาริย์ รู้สึกอิ่มประหนึ่งได้รับอานิสงฆ์จากบุญกุศลที่ได้ทำไว้ ...เพราะได้มาโดยชอบด้วยการมีจิตระลึกต้องการไว้บูชา ก็มีเหตุให้ได้มา

Post : ธรรมะนั้นดีจริง ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ย่อมพบดี (kchanprapa@yahoo.com) Date : 2012-05-30 02:18:43

ใช่ปาฏิหารย์หรือ?



เนื่อง จากอาตมาภาพได้ไปปริวาสกรรมที่เชียงราย ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และได้รับพระบรมสารีริกธาตุคล้ายเมล็ด***นึกสงสัย เพราะพระบรมสารรีกธาตุนั้นเป็นพระศาสดาจึงไม่ค่อยเชื่อจึงลองเสี่ยงทายโดย การนั่งสมาธิแล้วเอาพระบรมสาริรีกธาตุวางบนมืออธิษฐานว่าถ้าเป็นพระบรม สารีริกธาตุขอให้เรืองแสงพอจบคำอธิษฐานเท่านั้นมีแสงขึ้นมาจากฝามือที่พระ ธาตุ เลย



Post : Venareble Date : 2007-12-11 22:17:45

ตอนนี้ผมก็ได้พระบรมสารีริกธาตุจากวัดสังฆทานมาบูชา ครับ ก่อนนอนก็ว่าคาถาตามที่วัดให้มาเป็นประจำประมาณ2เดือนแล้วครับ ยอมรับว่าแอบดูทุกวันแต่ท่านก็ไม่แบ่งองค์สักที ไม่มีอะไรที่แสดงถึงอิทฤทธิ์อะไรเลยครับ

    แต่ตั้งแต่ได้ท่านมาบูชากลับรู้สึกว่าใจคอเยือกเย็นขึ้นจะทำอะไรกลับมีสมาธิดีขึ้น แต่เรื่องโชคลาภก็เหมือนเดิมครับไม่มีอะไรพิเศษ

     และไม่กี่วันมานี้ผมก็แอบดูท่านเหมือนที่เคยทำมากลับต้องแปลกใจเมื่อองค์ ท่านโตขึ้นกว่าเดิมรู้สึกดีใจมากครับและก็พร้อมที่จะทำความดีต่อไป

       เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงครับผมกล้าสาบานและถ้าท่านแบ่งองค์จริงผมก็จะแบ่งให้กับผู้มีศรัทธาฟรีเลยครับ

หลังจากที่ผมได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากอาจารย์ผมแล้วก็จากพี่ปราโมธด้วย  ผมยังได้รับความปราณีจากพยาบาลที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ซึ่งเป็นเจ้านาย แม่ผม  ได้สนทนาธรรมกับผมถูกใจกันป้าท่านเลย  จะแบ่งอัฐิธาตุของหลวงปู่เทสก์  กับหลวงปู่ชอบ  ให้   สุธุ  สุปฏิปัณโนภควโตสาวกสังโฆสังฆังนะมามิ  ถ้าได้มาเยอะอาจแบ่งให้ชมรมด้วย  แต่ต้องดูจำนวนด้วยนะครับ   หากได้มาเยอะจะแบ่งส่งไปให้ชมรมครับ



Post : ณรงค์ณัฐ(coolly_boy15@hotmail.com) Date : 2008-01-18 21:59:21

เคยได้ร่วมทำบุญกับทางชมรมที่มาร่วมงานใชฝังลูกนิมิตรที่วัดทรงเมตตาเมื่อปี50 ค่ะ น้องสาวก็ร่วมทำด้วยเช่นกัน ปรากฏว่าเมื่อวานนี้น้องโทรมาบอกค่ะว่า องค์พระธาตุได้เสด็จมาเพิ่มอีกจำนวนหนื่งซื่งเห็นได้ชัดเจนค่ะ ก็เลยได้แบ่งให้เพื่อนๆได้บูชากัน (น้องสาวสวดมนต์อัญเชิญท่านโดยสวมชุดขาวเป็นประจำทุกวันค่ะ) โดยส่วนตัวถึงท่านจะไม่ได้เสด็จมาที่เรา แต่ก็มีความรู้สึกปลื้มปิติมากค่ะ

และก็ต้องขออณุโมทนาบุญกับผู้จัดตั้งชมรมรักษ์พระบรมธาตุ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และสมาชิกทางชมรมทุกๆท่าน ด้วยค่ะ

สอบถามคับ ได้รับพระธาตุ ที่ทางชมรมแจกให้บูชาที่จังหวัดลำปาง อยากทราบว่าเป็นพระธาตุของใครคับ ??

ตามที่ทางชมรมได้มาจัดนิทัศการ ที่จังหวัดลำปาง  ช่วงสงกานต์ น่าจะเป็นที่วัดเชียงราย...

ผมและครอบครัว ได้มีโอกาสนมัสการพระบรมสารีริกธาตุและธาตุต่างๆ ที่ทางชมรมนำมาจัดแสดง..

และทางชมรมได้แจกพระธาตุให้ไปบูชา  1. อยากทราบว่าพระธาตุที่แจกเป็นของพระท่านใดคับ ตอนนั้นก็ลืมถาม

2.ตอนที่แจก ไม่ทราบว่าได้รับคนละกี่องค์คับ จำไม่ได้ ที่ได้รับ 2 ชุด คือผมกับแม่

จำไม่ได้ว่าได้รับคนละกี่องค์  ไม่แน่ใจว่าพระธาตุงอกเพิ่มขึ้นมาเองหรือไม่คับ เลยจะถามดูเพื่อความแน่ใจอ่ะคับ

คุณแม่นำพระธาตุ ที่อยู่ในเจดีย์แก้วมาเปิดให้น้องดู นับได้ 7 องค์อ่ะคับ.. รู้สึกว่าจะเพิ่มอ่ะคับ

ด้วยความเคารพ

ธนวัฒน์

ปาฏิหารย์ ของ พระธาตุ นั้น เป็นปัจจัตตัง พึงรู้ได้ด้วยตนเอง

ผมก็ได้พบกับตัวเองมาหลายครั้ง

หลายคนอยากได้พระธาตุเพื่อบูชา อีกหลายคนอยากได้ไว้บูชาเพื่ออยากเห็นปาฏิหารย์ และอีกหลายคนอยากได้เพื่อบอกว่าตนมี

สำหรับผมสิ่งที่ได้พบมาคือ ถ้าพลาดทำพระธาตุตกหล่นไป จะหาไม่เจอ แม้จะนอนกวาดที่พื้นอย่างไรก็ตาม บางครั้งต้องขออัญเชิญสวดมนต์ถวายนับเดือน บางครั้งเพียงอธิษฐาน กลับปรากฎ ณ ที่เดิม นั้น

อีดครั้งคือฝากพระบรมสารีริกธาตุ ไปกับคณะนักดำน้ำ ไปถวาย ล.ป.สุภา คราวนั้นเรือโดนพายุคลื่นลมแรง ข้าวของทุกอย่างกระจัดกระจายแม้แต่ของที่ไม่น่าหล่นก็หล่นระเนระนาด แต่พระบรมสารีริกธาตุบนพาน ไม่ขยับแม้แต่น้อย และเพื่อนๆในคณะนั้นดำน้ำกันสุขมาก เพราะได้เจอปลาใหญ่ที่อยากเจอ และปลาแปลกๆที่ไม่คิดว่าจะเจอมากมาย

ยังมีอีกแต่ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ เด๊ยวจะเฝือ

วันนี้เป็นวันพระผมก็สวดมนต์นั่งสมาธิครับพอลืมตาขึ้นมาพบพระบรมธาตุอยู่ใต้โต๊ะหมู่บูชาครับ

ที่เสด็จมา 7 องค์ครับ

เดี๋ยววันหลังจะเอารูปมาให้ดูเพราะยังไม่ได้เอารูปลงคอมเลยครับ

 ที่มีบูชาจะมีการเปลี่ยนสัณฐานและวรรณะ กล่าวคือจากเมล็ดข้าวเปลือกเปลี่ยนเป็นเมล็ดกลมสีขาวองค์ใหญ่ขึ้นเท่าไข่มุกและยังงอกอยู่ (ค่อยเป็นค่อยไปคะใช้เวลายี่สิบสามสิบปี) บางพระธาตุจะมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้น บางพระธาตุจะมีความใสแวววาว อย่างตอนได้บูชาจะเป็นเหมือนแผ่นบางๆ ขาวแต่ไม่ใสมาก พอบูชาจะเปลี่ยนสัณฐานเป็นนูนขึ้นใสขึ้นวาวมันสวยงาม เจอในสามลักษณะนี้คะ และสามารถเสด็จไปมาได้เอง อย่างรับบูชามาเก้าองค์ ไม่กี่วันจะเสด็จมาเป็นสิบเอ็ดองค์ พอถัดมาเหลือสิบองค์ แล้วแต่ท่านคะ หรืออย่างบางที่เป็นสีเทา วันรุ่งขึ้นเป็นสีดำมัน วันถัดมากลับมาเป็นสีเทาอีกเป็นต้น 

 สาธุทุก ๆ บุญในการให้ความรู้เกี่ยวกับพระบรมสารีริกธาตุค่ะ

ผมขอเล่าประสบการณ์ครับเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ....เมื่อวันพุธ ที่ 2 เมษา 57 ผมได้เดินทางไปสักการะและไปชมพระธาตุและได้ขอรับพระบรมธาตุจากชมรมมาครับแล้วนำมาบูชาผมได้สวดมนต์ทำสมาธิอุทิศส่วนกุศลทั้ง เช้า เย็น เพื่อเป็นการบูชาทุกวันตั้งแต่ได้รับพระบรมธาตุมา(ก่อนหน้านี้จะสวดเฉพาะวันพระ วันสำคัญ หรือยามที่รู้สึกโกรธเพื่อเป็นการควบคุมสติตนเองและทำให้จิตใจตนเองนั้นเย็นลง) เมื่อผมเริ่มสวดมนต์เช้า เย็น ตั้งแต่วันพฤหัส จนมาถึงวันนี้เป็นวันจันทร์ซึ่งตรงกับวันพระผมเลยเปิดฝาผอบที่บรรจุพระบรมธาตุอยู่แล้วทำการสวดมนต์เช้า พอตกกลางคืนประมาณราวๆ 2 ทุ่ม กว่าๆผมเลยปิดฝาผอบแล้วผมก็เดินออกจากห้องพระไม่กี่ก้าวเหมือนอะไรดลใจให้ผมเดินกลับไปที่หิ้งพระอีกครั้งแล้วผมก็หยิบพระบรมธาตุมาเปิดฝาผอบออกผมก็เห็นว่าพระบรมธาตุปกติดีพอผมจะปิดฝาแสงไฟจากนีออนได้มากระทบกับพระบรมธาตุองค์หนึ่งแล้วก็เป็นเงาเหมือนแก้วผมเลยเอามาดูใกล้ๆปรากฎว่าพระบรมธาตุได้เปลี่ยนเป็นวรรณะใสเหมือนแก้วซึ่งทำให้ผมนั้นรู้สึกมีความสุขมากแต่เรื่องของพระบรมธาตุเสร็จมาเพิ่มหรือไม่ผมไม่ทราบครับเพราะอยู่รวมกันในผอบครับ

ทำงานเป็นนายทหารอยู่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เคยมีโอกาสชมนิทรรศการที่นำพระบรมสารีริกธาตุมาให้สักการะ จึงตั้งจิตขอบุญบารมีหากเคยทำมาและมีบุญได้มีไว้สักการะบูชาขอได้มีพระบรมสารีริกธาตุไว้บูชา ปี 51 เรียนครูสมาธิรุ่น 23 ของหลวงพ่อวิริยัง สาขา 4 วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนา) แม่ชีที่เรียนรุ่นเดียวกันบอกว่าวัดสังฆทานแจกพระบรมสารีริกธาตุให้มาบูชา ดีใจมากไปรับกับน้องสาวฝาแฝด ได้ในขวดแก้วห่อผ้าลูกไม้สีทอง มีคนบอกว่าจะได้กี่องค์แล้วแต่บุญบารมี บางคนได้ 3 องค์ บางคนได้ 5-7 องค์ ได้รับจากมือพระที่นั่งแจก ดูแล้วได้ 3 องค์ ดีใจมากไม่มีความโลภว่าอยากได้มาก ได้ 3 องค์ เปรียบเหมือน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้มาแล้วแบ่งถวายพระอาจารย์ที่แนะนำให้เรียนครูสมาธิที่นี่  1 องค์ ท่านนำสวดมนต์รอบพิเศษ ถวายหลวงปู่หลอด ปโมทิโต ต่อมาไม่กี่เดือนมาดูพระธาตุที่เหลือท่านใหญ่ขึ้นและในวันที่หลวงปู่หลอด มรณะภาพ วันที่อัญเชิญสรีระท่านมาที่วัด วันนั้นบวชชีพราหม์ 3 วัน อธิฐานขอท่านต่อหน้ารูปท่านด้านหลังว่า ได้ยินข่าวพระธาตุเสด็จขณะท่านรักษาตัวอยู่ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ หากมีบุญบารมีและท่านเมตตาขอให้ได้ชมพระธาตุจากท่านเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติบูชาต่อไปจากที่ได้ทำมาตั้งแต่เด็ก และหากได้รับพระบรมสารีริกธาตุมากก็จะแจกให้วัดและญาติโยมที่ปฏิบัติดี แล้วก้มลงกราบรูปท่าน เงยหน้าขึ้นมา พบพระธาต 3 องค์ เสด็จอยู่ที่ดอกไม้หน้ารูปท่าน ดีใจมา หลังจากวันนั้น ตลอดเวลา 3 เดือน ที่มีโอกาสจัดดอกไม้ถวายในงานศพท่านตลอด 3 เดือน ไม่มีวันไหนที่จะไม่ได้พระธาตุเลย นอกจากวันที่ไม่ได้ช่วยมาวัด จะได้มาเมื่อจัดดอกไม้ถวายใหม่ และแจกให้คนที่มาร่วมงาน และพี่น้องครูสมาธิรุ่น 23 จนมีคนพูดว่าให้ขอที่ผู้พันบางคนไม่เชื่อตามพิสูจน์ 2 วัน เห็นกับตาแล้วถอดพระหลวงพ่อฤษีลิงดำมีพระธาตุเสด็จในนั้นให้เลย และได้พระบรม ฯ จากพระเถระที่มาจำวัดอยู่ที่วัดใหม่เสนา จากอินเดีย เรื่อยมาจนปี 55 จะทำความสะอาดห้องพระเผลอไปโดนกระถางธูปตก เมื่อจะเก็บพบพระธาตุข้าวบิณฑ์ และสัณฐานเมล็ดพันธ์ต่าง ๆ  ดีใจมากที่ท่านเสด็จมาเอง (ในกระถางธูปใส่ข้าวสารเวลาสวดมนต์ทุกวันจุดธูปจริงและใส่ถั่วเขียว งาดำ งาขาว จากงานสวดลัคขีหลวงพ่อวิริยังปี 51) ตลอด 7 ปีถวายและแจกพระธาตุตลอดล่าสุดแจกพี่ ๆ ที่เรียนนักธรรมเอก วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ด้วยกัน และน่าอัศจรรย์ที่พระเครื่องต่าง ๆ บางส่วนในห้องพระ หรือพระที่ได้มามีพระธาตุเสด็จเกาะอยู่ พระธาตุพระสีวลีก็มีเพชรเกาะ และได้รับเกสา พระธาตุของพระอรหันต์องค์ปัจจุบันต่าง ๆ ล่าสุดไปร่วมพิธีปิดเขาคิชกูฎ ก้ได้พระบรมสารีริกธาตุส่วนพระโลหิต (องค์สีม่วง) มา 1 องค์ ตอนท่านเสด็จมาอยู่ข้าง ๆ มีแสงแวววับทำให้ต้องมองดู สิ่งต่าง ๆ ที่ได้รับเป็นแรงศรัทธาที่มุ่งมั่นปวารณาขอเป็นสะพานบุญในพระพุทธศาสนา และเปิดร้านสังฆภัณฑ์ ประดิษฐ์สิ่งสวยงามถวายพระและวัด และขายบ้านมาอยู่ติดวัดใหม่เสนา เพื่อปฎิบัติธรรมและช่วยเหลือกิจการงานส่งฆ์ได้เต็มที่ ทั้งหมดคงเป็นจากการที่ปฎิบัติธรรมและทานมังสวิรัติทุกวันพระกับวันเกิด ถือศีล 5 ศีล 8 สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ออกโรงทาน และปฎิบัติสักการะฟังธรรมพระเถระสายธรรมยุตถ์ที่มาจำวัดที่วัดใหม่เสนาตลอด นี่เอง อยากเชิญชวนให้ผู้ที่มีจิตเลื่อมใส ศรัทธาในพระพุทธศาสนาทุกคน ให้ปฎิบัติเมื่อมีโอกาส แม้ไม่ได้ทุกวันก็ยังดีกว่าไม่ปฏิบัติ ท่านจะได้รับความรู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูกที่ได้รับสิ่งที่ดีจากการปฎิบัติ ซึ่งเป็นปัจจัตตัง (ที่รู้ได้เฉพาะตนจริงๆ )  

ดิชั้นเพิ่งเข้ามาศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพระธาตุได้2-3วันนี้เองค่ะ เพราะเกิดความสงสัยและยังไม่แน่ใจกับสิ่งที่เรียกกันว่า "พระธาตุเสด็จ" ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เราได้เจอนี้ใช่หรือไม่ เพราะถ้าเป็นจริง นั้นคือปาฏิหารย์จริงๆ อธิบายไม่ได้ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์

ขอเล่าประวัติส่วนตัวนิดหนึ่งนะค่ะว่า ดิชั้นเป็นคนเชื้อสายจีน ไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญสวดมนต์เท่าไหร่หรอกค่ะ เรียนจบทางสายวิทยาศาสตร์ และได้ทำงานศึกษาต่อต่างประเทศ กลับมาถึงได้มีโอกาสรู้จักการปฏิบัติแบบพุทธศาสนิกชนทั่วไป ก็มีหัดนั่งสมาธิบ้าง (น้อยมาก เมื่อตอนแรกๆนั่งได้นานเป็นชม เลยค่ะ แต่หลังๆมาลองนั่งใหม่ จิตไม่สงบเลย คิดเยอะแยะเต็มไปหมด คงเป็นไปตามสภาพแวดล้อมมั้งค่ะ) ก็มีสวดมนต์บ้าง ไม่ถึงกับทุกคืน แต่ก็รักษาศิล5ได้พอสมควรนะค่ะ แล้วก็ไม่ทานเนื้อวัว เป็ด และสัตว์ที่มีกลิ่นสาปนะค่ะ อะนี้ไม่ได้ตั้งใจคือมีเหตุให้ไม่ทานมาตั้งแต่เด็ก พอทานแล้วมันสาป เลยงดๆไป ยิ่งพอหลังๆ ชอบทานแต่พวกผักๆ เนื้อสัตว์ก็มักจะกินแต่หมูสับ

ก็ชอบนะ ฟังเรื่องธรรมมะ มีเหตุผล ยิ่งถ้าอธิบายได้ในเชิงวิทยาศาสตร์จะยิ่งสนใจ เช่น คนเราตายแล้วจะเปลี่ยนเป็นพลังงาน เพราะสสารไม่มีทางสูญหายตามหลักวิทยาศาสตร์ เพราะฉนั้น เรื่องผี การเวียนเกิด เป็นสิ่งที่พออธิบายได้ เชื่อค่ะ แม้กระทั่งตัวเองมีความรู้สึกบางครั้งเวลาไปนอนต่างที่ เพราะคลื่นความถี่ของพลังงานเผอิญมาตรงกัน แต่ก็ไม่อยากพิสูจน์มาก กลัวค่ะ หรือแม้กระทั่งเรื่องพระธาตุ ก็เชื่อในระดับหนึ่ง เพราะขนาดฟอสซิวยังมีได้ เพียงแต่พระธาตุอาจเกิดจากความคิดที่สงบ ร่างกายก็อาจผลิตฮอร์โมนหรือเรียงตัวเป็นแบบที่กลายเป็นพระธาตุตั้งแต่ผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นการเพิ่ม การสลายก็เป็นไปได้ คล้ายๆ***งอก หรือการระเหิดของสสาร ที่กล่าวมาไม่ได้มีเจตนาลบหลู่นะค่ะ เพราะคิดว่าคนปกติชนทั่วไปถ้าไม่ปฏิบัติชอบ ร่างกายคงไม่สามารถแปรเป็นพระธาตุได้

แต่เรื่อง"พระธาตุเสด็จ" คิดยังไงก็ไม่มีเหตุผลมาช่วยตอบเลยค่ะ

คราวนี้ เมื่อ3วันก่อน ดิชั้นเพิ่งได้รับอันเชิญพระธาตุ จากพี่คนหนึ่งที่ค่อนข้างปฏิบัติธรรม สวดมนต์ กินมัง สีของพระธาตุออกส้มๆ ทรงกลมๆ ตอนที่ได้ก็ได้แบบขอมา อยากไว้บูชา เพราะเคยได้ยินมาบ้าง เห็นพี่เค้านำมาบูชาที่โต๊ะทำงาน พี่เค้าก็เลยแบ่งให้ ตอนนั้นพี่เค้าก็ใส่กล่องนามบัตรแบบใสๆ เพราะไม่ได้เตรียมอะไรไปใส่ แบบว่าไม่ได้คิดมาก่อนนะค่ะ พี่ก็ใส่พระองค์เล็กๆมาด้วย1องค์พร้อมกับพระธาตุสีส้ม1องค์ แล้วก็เขียนบทสวดสั้นๆ3บรรทัด ไว้บูชาพระธาตุ ขากลับ เราก็แวะดูตามร้านทั่วไปเผื่อจะได้ที่บรรจุพระธาตุดีขึ้นมาหน่อย เพราะแถวบ้านไม่มีร้านขายของสังฆทาน ของสงฆ์ ก็ได้แก้วมีฝาแก้วมา 1ชุด แล้วก็ตลับกลมๆแบบใส่ยามา5ตลับ ตอนนั้นคิดแค่ว่าซื้อๆไปก่อน อันไหนใช้ได้ก็อันนั้น ถ้าเหลือ ก็เผื่อพระธาตุเสด็จ เอาไว้อัญเชิญให้ผู้อื่น คิดแว๊ปๆเล่นๆนะค่ะ ไม่จริงจัง เป็นเหตุผลให้ซื้อของตามประสาผู้หญิงมากกว่า

ขอสรุปเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพระธาตุในช่วง3วันที่ผ่านมานะค่ะ

1) พระธาตุเปลี่ยนสี: คือพอกลับถึงบ้านก็เปิดกล่องเพื่อนำพระธาตุมาใส่ในแก้วอันใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ปรากฎเห็นพระธาตุเป็นสีแบบขาวหม่นๆพาสเทล แบบขุ่นๆนะค่ะ ไม่ใช่สีส้มใส แบบตอนได้รับมา ก็แบบว่าแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าคงทำปฏิกิริยากับอากาศ เปลี่ยนที่อะไรประมาณนั้น แต่ก็ยังคงศัทธา เลื่อมใสนะค่ะ เพราะถือว่าเป็นพระธาตุของผู้ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นำมาบูชาไว้ข้างๆพระประธานที่หิ้งพระ

2) ได้เพิ่ม: เช้าวันรุ่งขึ้น ได้แวะไปบ้านสามีทานอาหาร คุณแม่สามี บอกได้ซื้อครอบแก้วมาให้ (คือ อาทิตย์ก่อนได้มีโอกาสไปไหว้พระธาตุพนม แล้วเช่าพระธาตุพนมจำลองที่เป็นทรงเจดีย์มา แต่ไม่มีฝาครอบ แม่สามีเป็นผู้ปฏิบัติธรรมอยู่แล้ว เลยอาสาจะซื้อให้ เพราะไปแถวสำเพ่งบ่อยๆ เราก็ไม่รู้หรอกว่ามีขายแถวนั้น) พอเดินไปดู ที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่ครอบแก้ว แต่เป็นเจดีย์แก้วประดับเพชร พร้อมพานทอง ดอกมาลัยประดิษฐ์ และดอกบัวทองประดิษฐ์ เห็นแล้วอึ้งไปครู่ คิดอย่างรวดเร็วว่า เจดีย์แก้วนี้เล็กไปสำหรับพระธาตุพนมจำลองที่เช่ามา แต่ช่างสวยงามเหมือนได้มาเพื่อพระธาตุที่อันเชิญมาเมื่อวานจริงๆ แม่สามีบอกว่า เห็นสวยดีเลยซื้อมาให้...นำไปเล่าให้พี่ที่ให้พระธาตุฟัง เค้าบอกว่าเป็นการได้เพิ่มรูปแบบหนึ่ง แต่ในใจส่วนหนึ่งก็คิดว่าอาจเป็นเรื่องบังเอิญ..

3) พระธาตุเสด็จ: เหมือนทุกอย่างมารวมในวันเดียว คือ อ่านเจอในเวปหนึ่งว่ามีบทอัญเชิญพระธาตุ เมื่อวานเลยเพิ่งมาสวดบทอัญเชิญ นอกเหนือจากบทบูชาที่พี่เค้าให้มา แล้วถือโอกาสนั่งสมาธิแต่ก็ไม่นานมากนัก ตอน บ่ายๆมีเหตุให้ไปทำสังฆทานแบบไม่ได้ตั้งใจ ตกเย็นไปกินข้าว เห็นดอกบัวสีขาวสวยมาก เลยนึกได้ว่ายังไม่ได้ถวายดอกไม้พระธาตุตั้งแต่ได้มาบูชา เลยซื้อดอกบัวสีขาวมา2กำ และพวงมาลัยมะลิสดมา1พวง พอถึงบ้านก็จัดดอกไม้ พวงมาลัยใส่พาน ถวายพระธาตุ พอถวายเสร็จ กำลังย้ายดอกบัวทองประดิษฐ์ไปวางบนหิ้ง ก็ได้ยินเสียง กริ้ง เหมือนมีของตกบนหิ้งข้างๆมือ เลยเขย่งขาขึ้นไปดู เห็นวัตถุเล็กๆสีขาว รูปร่างคล้ายเมล็ดข้าวแต่เล็กกว่า พลิกๆดูเห็นเป็นผลึกๆ ในใจคิด "พระธาตุเสด็จ" หรือ? ไม่น่านะ.. พยายามคิดหาเหตุอื่น เป็นเศษกาว เศษอิฐ กระเด็นมารึเปล่า แต่รูปร่างก็ไม่ใช่ คือเป็นผลึกเล็กๆแววๆ แถมตรงหิ้งพระเป็นชั้นไม้ทั้งหมด จะว่าเป็นเศษ***ก็ไม่น่าใช่ เพราะเพิ่งเช็ดถูหิ้งพระไปไม่นาน แถมอยู่บนหิ้งด้านบน

ทั้งหมดนี้เป็นเหตุให้ต้องมาศึกษาเพิ่มเติมนะค่ะ วันจันทร์หน้าจะอัญเชิญพระธาตุนี้ไปให้พี่ที่ให้องค์แรกมา ดูให้ว่าเป็นพระธาตุจริงรึเปล่า คือถ้าเป็นจริง ดิชั้นคงต้องจริงจังกับการศึกษาปฏิบัติเพื่อให้เห็นให้เข้าใจเอง มันยากที่จะเชื่อค่ะว่า ปาฏิหารย์จะมีจริงได้ ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ฟังต่อนะค่ะ

ขออัพเดทนะค่ะ วันนี้นำพระธาตุให้พี่เค้าดูแล้วค่ะ ตอนแรกเค้าก็ไม่ได้พูดอะไร ก็นำตลับใส่น้ำ แล้วนำพระธาตุมาลอย (ไม่ได้สังเกตุว่าพี่เค้ามีสวดอะไรก่อนรึเปล่า) ในใจก็ลุ้นแบบทำใจด้วย เผื่อเราทึกทักไปเอง ปรากฎพระธาตุลอยน้ำ เราก็ยังเงียบๆแบบว่าโฟมก็ลอยน้ำได้นิ แล้วพี่เค้าก็บอกว่า เป็นพระธาตุจริง เห็นฟองจุดๆรอบๆท่านมั้ย เราก็ เออใช่ๆเห็นจริงๆ สักพัก วัตถุนี้ก็ลอยไปหาขอบตลับแล้วก็เหมือนวิ่งแบบโดนแม่เหล็กดูดไปติดขอบตลับ ซึ่งเป็นตลับพลาสติกที่ซื้อมาเมื่อวานก่อนนี้เอง อันนี้ก็ตื่นเต้นเลยค่ะ ต้องบอกว่าไม่เคยเห็น พี่เค้าก็เขย่าใหม่ให้พระธาตุ ลอยมาตรงกลาง สักพักท่านก็วิ่งไปขอบๆ แล้วก็เหมือนโดนดูดอย่างรวดเร็วไปติดขอบ รีบนำโทรศัพท์มาถ่ายวีดีโอกะว่าจะให้แม่ดูแต่ถ่ายอีท่าไหนไม่รู้ ไม่ติด คือกดไม่ทัน กดเร็วไปช้าไปจนพี่เค้านำไปเก็บ ถึงเพิ่งมารู้ว่าถ่ายไม่ติด พี่ก็เลยว่า ท่านคงไม่อนุญาติ พี่เค้าก็ยินดีกับเราด้วย เราก็ดีใจนะค่ะ ที่ได้มีโอกาสเห็น เพราะเคยแต่อ่านมาไม่เคยเห็นกะตาแบบนี้

ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีค่ะ นำมาเล่าให้ฟัง สำหรับคนที่พึ่งเคยมีโอกาสได้เจอ พระธาตุเสด็จปาฏิหาริย์ แบบนี้ (คือ หล่นกริ้ง ตรงหน้า ไม่ใช่แบบ เพิ่มลดในตลับ นะค่ะ) ต้องขอบอกว่าสำหรับกลุ่มคนที่ถูกปลูกฝั่งทุกอย่างมาด้วยเหตุผล ยึดตาม Fact ทุกเรื่องแบบดิชั้น ก็คงตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านี้ค่ะ จึงอยากนำมาเล่าให้ฟัง เผื่อกลุ่มคนที่เป็นtype เดียวกันได้มาอ่านเจอ จะได้ไม่ต้องสงสัยว่าที่เห็นนี่จริงหรือ พระธาตุ จะหล่นมาจากอากาศได้จริงหรือ ครั้งนี้เป็นอีกคนที่ประสบกับตัวเองค่ะ ตื่นเต้น สงสัยจนตอนนี้หายสงสัยแล้วค่ะ

คราวนี้เรื่องพระธาตุเสด็จแบบปาฏิหาริย์เป็นจริง พบด้วยตัวเองแล้ว ก็เลยวิเคราะห์ต่อไปว่าเหตุอะไรบ้างที่สามารถทำให้เกิดได้ พยายามคิดได้หลายแบบมากเลยค่ะ (เป็นสมมุติฐานส่วนตัวนะค่ะ) คือ

1) อาจเกิดจากบทสวดมนต์ ที่ทำให้ธาตุในอากาศเรียงตัวใหม่ ควบแน่นเป็นก้อนผลึก เพราะเคยได้ยินมาว่าเคยมีคนนำกล้องจุลทรรศ มาส่องการเรียงตัวของน้ำมนต์กับน้ำธรรมดา จะเรียงตัวไม่เหมือนกัน

2) นอกจากบทสวดแล้วอาจต้องเป็นผู้มีสมาธิ หรือ จิตปฏิบัติในระดับหนึ่ง คืออย่างที่เคยกล่าวมาว่าตัวเองเป็นคนที่เชื่อในเรื่องพลังงานและคลื่น ที่ตาเรามองไม่เห็น เพราะฉนั้นพลังงานเหล่านี้จะส่งต่อไปยังสิ่งรอบๆตัวเราได้

ส่วนสันนิฐานอื่นๆ ตกไปค่ะ เช่นแมลงบินพามาหล่นไว้ หรือ เศษตกหล่นจากกำแพง ประตู ไม่น่าเป็นไปได้ คิดตั้งแต่วันแรกๆแล้วค่ะ เพราะพื้นที่เป็นพื้นที่ปิดมาก

พอมาถึงจุดนี้ ก็กระจ่างพอแล้วค่ะ คงไม่คิดต่อแล้วค่ะ..คือ

สิ่งที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้ เป็นสิ่งที่ง่ายสุดแล้ว ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่คิดว่าจะมีจริง ก็มีจริง ความจริงแล้วอาจเป็นเรื่องธรรมดาด้วยซ้ำในโลกและจักวาลนี้ แต่สัมผัสทั้ง5ของคนเรามีข้อจำกัด เลยชินกับการไม่เห็นไม่มี

ดังนั้น สิ่งที่เป็นนามธรรมคือหลักคำสอนของศาสดา ก็ต้องเป็นจริง เราก็ควรนำมาปฏิบัติ แล้ววันหนึ่งเราคงได้เห็นจริงเอง แต่ก็คงเลือกปฏิบัติในหลักที่เป็นเหตุผลก่อนนะค่ะ บางเรื่องถ้าดูงมงายมาก เราก็คงต้องศึกษาถึงที่มาก่อนว่าเป็นคำสอนจริงๆ หรือแค่บอกต่อๆกันมา..

ใครสนใจเกี่ยวกับเรื่องที่อธิบายไม่ได้ แต่อยากหาคำตอบ ให้อ่าน หนังสือประสบการณ์พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ของคุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัต มีวางขายแล้วที่ซีเอ็ดบุ๊คส์

 ดิฉันได้เจอกับตัวเองพระธาตุเสด็จ ท่านเสด็จมาที่บ้านสี่ครั้ง งดงามมาก ไม่ได้นึกว่าชีวิตนี้จะได้เห็นกับตา จากดินกลายเป็นทอง+

 ดิฉันอีกคนหนึ่งที่ได้พบกับปาฎิหาริย์ จาก พระธาตุ คือเมื่อประมาณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 เคยไปอบรมข้าราชการครูและบุคลากรใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ปฏิบัติงาน ณ โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี ๓ ฉะเชิงเทรา (อบรม ณ วัดป่าเขาล้อม ) โดยมีวิทยากร คือ อ.คณานัน (ผู้ดูแลเว็ปพลังจิตดอทคอม) ท่านได้มอบ พระธาตุให้กับผู้เข้ารับการอบรม  ดิฉันได้มา 7 องค์ ต่ะ เล็กๆ ขนาดเท่าเม็ดข้าวสารแบ่งเป็นท่อนๆ ประมาณนั้น ดิฉันนำกลับไปบูชาที่ห้องพระ ต่อมาไม่นานเกิดปาฎิหาริย์ พระธาตุ จาก 7 องค์ รวมเหลือ 2 องค์ องค์ที่ 1 เล็กเท่าเดิม แต่องค์ที่ 2 มีขนาดใหญ่ขึ้นหลายเท่าจากเดิม (ปัจจุบันมี 2 องค์ค่ะ) ขอความเมตตา หากท่านใดสามารถติดต่ออาจารย์ คณานันท์ ดิฉันอยากกราบขอบพระคุณในความกรุณาในครั้งนี้ค่ะ ที่อยู่ที่่ทำงาน ร.ร.มัธยมสิริวัณวรี ๓ ฉะเชิงเทรา 407 ม.3 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา 24160

ที่บ้านของผมได้พระธาตุมา ตอนที่ไปพม่า ผมได้พระธาตุมาหลายองค์ มีพระธาตุของพระสิวลี พระโมคคลา พระสารีบุตร แต่ที่ผมต้องมาแชร์ประสพการณ์ความอัศจรรย์คือ เมื่อประมาณ2 เดือนที่ผ่านมา ผมนำผอบมาเปลี่ยนผอบที่ใส่พระธาตุเดิม บังอิญผมทำผอบตก พระธาตุในผอบตกพื้น ผมต้องค่อย ๆ เก็บมาใส่ผอบ ผมสังเกตุเห็นมีเศษผงสีดำ กระเด็นติดขอบผอบ ลักษณะเหมือน แม่เหล็กข้วเดียวกันจะดันออกมา ผมก็เช็ดออกได้ง่าย  ไม่ได้เป็นแ่ค่ครั้งเดียว เป็นหลายครั้ง ทุกวันนี้ผอบที่ผมทำตก ดูแล้วจะเห็นว่าพระธาตุเงาขี้น ใหญ่ขี้น ครับ

ทีต้องมาแชร์ เพราะมีความรัูสีกไม่น่าเชื่อเรื่องเศษผงที่กระเด็นออกมา ติดที่ขอบผอบเหมือนมีแม่เหล้กมดันออก