ขอกราบนอบน้อมต่อ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พระธรรมเจ้า พระสังฆะเจ้า

วันวิสาขบูชา นี้เป็นวันคล้ายวันประสูติ วันตรัสรู้ วันดับขันธ์ปรินิพพาน   

มีธรรมะเกี่ยววันวิสาขบูชานี้มาฝาก

วันวิสาขบูชาจะเวียนมาบรรจบอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ วันที่ 28 พฤษภาคม 2553 เป็นช่วงเวลาสำคัญพิเศษอีก

วันวิสาขบูชาตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 เดือน 6 (เนื่องจากปีนี้มีเดือน 8 สองหน/อธิกมาส วันวิสาขบูชาจึงตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7) ถือเป็นวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศาสนา เนื่องด้วยเป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ซึ่งเหตุการณ์ทั้ง 3 เวียนมาบรรจบในวันเดียวกันอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง

หลักธรรมทางพุทธศาสนา อันเนื่องกับการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระพุทธเจ้าคือ ความกตัญญู อริยสัจ 4 และความไม่ประมาท ความกตัญญูในทางพระพุทธศาสนา กล่าวคือ พระพุทธเจ้าทรงเป็นบุพการีในฐานะที่ทรงสถาปนาพระพุทธศาสนา ทรงชี้ทางพ้นทุกข์แก่มวลมนุษยชาติ พุทธศาสนิกชนจึงควรแสดงออกด้วยความกตัญญูกตเวทีด้วยการทำนุบำรุง ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อดำรงพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป

อริยสัจ 4 คือความจริงอันประเสริฐ 4 ประกอบ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ความไม่ประมาท คือ ไม่ประมาทในการดำรงชีวิต มีสติทุกขณะ ไม่พลั้งเผลอทั้งพูด ทำ คิด สหประชาชาติจึงประกาศให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2552

แนวทางปฏิบัติของพุทธศาสนิกชนในวันวิสาขบูชา ได้แก่ ให้ทาน ทำบุญตักบาตร บริจาคทรัพย์ ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ รักษาศีล สำรวมระวังกาย วาจา รักษาศีล 5 หรือศีล 8 โดยเคร่งครัด เจริญภาวนา บำเพ็ญภาวนาด้วยการไหว้พระ สวดมนต์ ฟังธรรม บำเพ็ญสมาธิ วิปัสสนา เวียนเทียน เป็นการบูชาพระรัตนตรัยด้วยอามิสบูชา (บูชาด้วยสิ่งของ) และปฏิบัติบูชา น้อมรำลึกบูชาพระคุณพระรัตนตรัย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ผมมกรธวัช กุศล    ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนพร้อมใจบำเพ็ญความดี ด้วยการประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมของพุทธศาสนา เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาและน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อความสุขอันแท้จริงของชีวิต