|
|
พระธาตุไม่ลอยน้ำ | |
พุ | ผมได้พระธาตุจากชมรมแล้ว ไม่ลอยน้ำครับ |
ผู้ตั้งกระทู้ พุ :: วันที่ลงประกาศ 2008-03-29 10:27:11 IP : 118.174.125.97 |
ก่อนหน้า1ถัดไป |
ความคิดเห็นที่ 1 (1416389) | |
popedern | ไม่ลอยเหมือนกันแต่เชื่อว่าเป็นของจริงเพราะ เราดันแขวนพระธาตุ แล้วไปเล่นไพ่กับเพื่อน พอถึงบ้านจะถอดเก็บ ไม่ทราบว่า หลุดหายจากคอได้อย่างไร ทั้งที่ มีกลียวล๊อคอย่างดีแต่ กลับหลุดออกเองโดยไม่ทราบสาเหตุ มาถึงบ้าน เม็ดองค์พระธาตุหลุดออก ต้องตามหาเก็บแต่ไม่ครบ ดังนั้น ตั้งใจว่าถ้านำพระธาตุติดตัวไป จะต้องทำแต่ความดี ถ้าเผลอไปทำผิดศีล 5 พระธาตุ ก็ไม่อยู่กับเรา |
ผู้แสดงความคิดเห็น popedern วันที่ตอบ 2008-03-29 11:49:25 IP : 58.8.154.62 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1416429) | |
poon | ผมว่าพระธาตุเสด็จกลับครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น poon วันที่ตอบ 2008-03-29 13:08:55 IP : 125.25.199.149 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1416431) | ||
พระพุทธศาสนา | ปาฏิหาริย์พระธาตุแท้จริงแล้วสอนอะไร
............เริ่มแรกที่ข้าพเจ้ารู้จักพระบรมสารีริกธาตุนั้น เพราะในขณะนั้นคุณอาของข้าพเจ้า ได้มาจากท่านผู้ใหญ่ที่ท่านนับถือ ตอนได้มาได้มาประมาณ 7 องค์เท่านั้น ครั้งแรกที่เห็นข้าพเจ้านึกในใจว่า ทำไมถึงเป็นเม็ด*** และมีลักษณะมันเลื่อม แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ คือตอนนั้นใครเขาว่าเป็นพระธาตุเราก็ว่าตามเขา ไม่ได้คิดอะไร หลังจากนั้น 4 ปี ข้าพเจ้าก็เห็นปรากฏการณ์หนึ่ง ที่เกี่ยวเนื่องด้วยปาฏิหาริย์ของพระบรมสารีริกธาตุ คืนวันนั้นข้าพเจ้านอนอยู่บนบ้านทรงไทยสมัยเก่าซึ่งเป็นไม้ และเวลานอนก็จะนอนกางมุ้ง โดยจะมีหิ้งพระอยู่บนหัวนอน โดยหิ้งพระจะเยื้องจากมุ้งประมาณวาเศษ ข้าพเจ้าเอี้ยวตัวลงนอนแล้วเปิดเพลงฟังเป็นปกติ ............นึกอย่างไรไม่ทราบ สายตาจากที่ไม่เคยหันไปมองที่หิ้งพระแต่ไหนแต่ไร ก็กลับต้องมอง เหมือนมีอะไรดลใจ ภาพที่เห็นติดตาติดใจ จนกระทั่งทุกวันนี้คือ แสงดวงขนาดนิ้วหัวแม่โป้งลอยจากหิ้งพระอย่างช้าๆ ลักษณะของแสงนั้นเป็นดวงสีเขียวคล้ายกับแสงเลเซอร์สีเขียวอย่างไรก็อย่างนั้นเลย ความสว่างของแสงไม่ทำให้เกิดเงากับวัตถุที่แสงนั้นลอยผ่าน ดวงไฟปริศนานี้ได้ลอยมาวนบนมุ้งที่ข้าพเจ้านอน ลักษณะการวนเป็นวงกลม กลมก็กลมจริงๆ ไม่มีบิดเบี้ยวเลยแม้แต่น้อย และยังวนตามเข็มนาฬิกาอีก ข้าพเจ้าจับตาดูจนกระทั่งแสงนั้นลอยหายไปบริเวณชานบ้าน พอได้สติก็รีบวิ่งไปบอกคนที่บ้านว่าเมื่อ ตะกี้เห็นแสงอะไรก็ไม่รู้สวยเชียว อาของข้าพเจ้าก็เลยบอกว่า เคยเห็นเหมือนกัน ลักษณะแบบเดียวกัน แต่เพียงแค่ไม่เห็นที่มาเท่านั้นว่าลอยมาจากไหน หลังจากนั้นได้มีโอกาสได้ไปกราบครูบาอาจารย์ในโอกาสที่ท่านมากิจนิมนต์ที่บ้านข้าพเจ้า ซึ่งจะนิมนต์เป็นประจำแทบทุกปี จึงได้เล่าเหตุการณ์ถวาย และเลยถือโอกาสกราบเรียนถามท่านว่า เอท่านอาจารย์แสงที่เห็นเป็นแสงอะไรแน่ ท่านได้ให้ความกระจ่างว่า แสงที่เห็นเป็นแสงของพระบรมสารีริกธาตุทำปาฏิหาริย์ให้โยมเห็น แสดงว่าโยมมีบารมีเกี่ยวเนื่องด้วยพระธาตุ เพราะครั้งที่อาตมาไปสร้างวัด.......ใหม่ๆ อาตมาก็เคยเห็นเหมือนกัน ข้าพเจ้าในตอนนั้นบอกตามตรงว่า ปีติมาก แม้ว่าพระพุทธองค์จะปรินิพพานไปนานมากแล้วยังมีเมตตากับข้าพเจ้า ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดก็คงจะยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงสงสัยว่าจะเกี่ยวเนื่องกันกับพระธาตุอย่างไร ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก เพราะคิดว่าห่างไกลตัวเองมาก แค่นี้ก็ปลื้มใจมากพอแล้ว ............หลังจากนั้น 3 ปี ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปกราบพระธาตุครูบาอาจารย์ที่บ้านคุณหญิงสุรีพันธุ์ และคุณอารยะ หวังทวีวิทย์ ก็เกิดความคิดขึ้นมาว่าอยากได้ไว้บูชาเพื่อเป็นศิริมงคลกับตนเองและครอบครัว ข้าพเจ้าก็เลยลองอัญเชิญพระธาตุดู ท่านก็มาให้จริงๆ โดยถ้าจำไม่ผิดองค์แรกทีอธิษฐานขอ เห็นจะเป็นของท่านพระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วบ้านชุมพล จังหวัด สกลนคร เพราะได้อ่านคำสอนของท่านแล้ว รู้สึกประทับใจมาก พระธาตุที่เสด็จมานั้นลักษณะเป็นแก้วใส 1 องค์ ข้าพเจ้าดีใจมาก ที่ท่านเสด็จมา เพราะครั้งนั้นข้าพเจ้าได้อธิษฐานเสี่ยงบารมีว่า ถ้ามีบุญวาสนา และ บารมีทางพระธาตุอย่างแท้จริงแล้วขอให้พระธาตุเสด็จมาโปรด ถ้าไม่มาแล้วไซร้ข้าพเจ้าจะไม่ขออีกเลย ............ระยะนั้นนึกอยากได้องค์ไหนท่านก็มาๆๆ ให้ พอระยะหลังๆที่ได้อัญเชิญท่านก็ไม่มา ซึ่งตามปกติแล้วหลังจากสวดมนต์และนั่งสมาธิแล้วพอลืมตามาก็จะปรากฏบนผ้าขาวที่เตรียมไว้ แต่ครั้งหลังๆนี้ หนึ่งวันก็แล้ว สองวันล่วงไปแล้ว ก็ยังไม่มา จนกระทั่งข้าพเจ้าอ่อนใจที่จะอัญเชิญต่อ แต่ก็ยังคงฉงนใจและแปลกใจว่าทำไมท่านไม่มาให้ หรือว่าเราทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรหรือเปล่า ลองมานั่งย้อนนึกดูก็ไม่มีอะไรนี่นา นึกอยู่ในใจแค่นั้น ความสงสัยก็ยังคงอยู่อีกนั่นแหละ จนกระทั่งได้คุยโทรศัพท์กับท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่งก็เลยเล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาให้ท่านฟัง ท่านก็พลอยตื่นเต้นไปกับข้าพเจ้า จนท่านพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า ถ้ามีบารมีจริงแล้วทำไมถึงต้องอัญเชิญล่ะ สู้ให้ท่านมาหาเราเองไม่ดีกว่าเหรอ ข้าพเจ้าก็เลยสว่างวาบขึ้นมาในใจว่า ลูกรู้แล้วว่าเพราะเหตุใดท่านจึงไม่เสด็จมา เหตุผลก็คือว่า เราไปยึดมั่นถือมั่น ในองค์พระธาตุว่าถ้าเราขอท่านต้องมาให้ และมีความประมาท มากว่าเรานี้แน่ อธิษฐานทีไรท่านก็มาให้ทุกที ในครั้งแรกที่ท่านมาๆๆให้ เพราะท่านต้องการให้ข้าพเจ้ามีความตั้งมั่น ในพระพุทธศาสนา ให้มีความเชื่อว่า คุณของพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระอริยะสงฆ์ซึ่งยังปรากฏอยู่ในโลกนี้ มิได้เสื่อมสูญหายไปไหน ............เสมือนหนึ่งขนมหวานที่ล่อให้ติดใจ แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มอด เริ่มทรมานให้รู้ถึงแก่นแท้ ให้รู้ถึงธรรม จนมีผู้เคยพูดว่าพระบรมสารีริกธาตุท่านเสด็จมาสอนธรรม ตอนนั้นก็ยังสงสัยว่า ท่านจะมาสอนได้ยังไงก็ท่านเป็นลักษณะเป็นก้อนกลมๆ คล้าย******ที่มีลักษณะงดงามเพียงแค่นั้นเอง บัดนี้แจ้งใจแล้วว่าท่านมาสอนได้อย่างไร ข้าพเจ้าเลยเริ่มต้นใหม่โดย ตั้งไว้ว่าเอาละนับแต่นี้ ข้าพเจ้าจะไม่อัญเชิญพระธาตุอีกแล้ว แต่ถ้าท่านเมตตาจริงท่านก็คงมาให้เอง แล้วก็หันมาภาวนา ครั้งแรกๆก็อดไม่ได้ที่จะขอท่านว่าอยากได้ ขอบารมีท่านเสด็จมาโปรดด้วยเถิด นึกในใจ ปรากฏว่าไม่มาเลยซักองค์เดียวคราวนี้ ก็เลยลองใหม่คิดว่าจิตคงจะไม่มั่นคงเท่าที่ควร ลองแล้วลองอีกก็ไม่มา ก็ตัดใจว่าคงไม่ได้ไว้แล้วละ คงไม่มีวาสนา หลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้นำมาให้ บางทีครูบาอาจารย์ท่านก็นำมาให้เป็นอย่างนี้ทุกทีไป ก็เลยมาย้อนคิดดูว่าคงเป็นเพราะว่ายังมีความอยากได้ท่านก็เลยไม่มาซะ แต่พอตัดใจจากองค์นั้นๆได้ ท่านคงจะว่า ทรมานมันมาพอสมควรแล้ว ให้มันหลาบจำ ว่าคราวหลังอย่าโลภ พอโลภก็จะขัดขวางความก้าวหน้าของจิต แต่พอสามารถที่จะละวางได้บ้างแล้ว ท่านถึงจะให้มาเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรมต่อไป ............สมัยก่อนข้าพเจ้าเคยคิดอยากจะเขียนเล่าถึงปาฏิหาริย์ของพระธาตุที่ข้าพเจ้าได้พบซึ่งมากมาย หากนำมาเล่าก็อาจยาวมากขนาดเขียนเป็นเล่มได้ แต่พอบัดนี้แล้วข้าพเจ้าคิดว่า คนทั่วไปเขามักจะเล่าถึงว่าเขาประสบปาฏิหาริย์พระธาตุอย่างไรบ้าง ซึ่งก็มีผู้เขียนมามากแล้ว แต่ข้าพเจ้ากลับมองว่าทำอย่างไรต่างหากที่พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาโปรด และท่านสอนธรรมอะไรบ้าง อย่างหนึ่งเลยก็คือ ศีล คือสิ่งที่สำคัญ เป็นบาทฐาน ข้าพเจ้าก็ยังต้องยอมรับว่าบางครั้งก็ด่างพร้อยไปบ้าง เพราะมิได้วิเศษวิโสอะไร เป็นธรรมดาของผู้ที่ยังมีอวิชชาเข้าครอบงำอยู่ ซึ่งยังไม่สามารถกำจัดได้ซะทีเดียว และที่สำคัญคือ สมาธิ การนั่งภาวนาดูจิตใจของตนเอง โดยไม่ต้องไปแส่ส่ายหาสิ่งภายนอกอย่างอื่น ............ในความคิดของข้าพเจ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้แหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการที่พระธาตุเสด็จมาโปรดหรือไม่ แล้วต้องกอปรด้วยบารมีเก่าที่เกี่ยวเนื่องกับพระธาตุ เช่นเคยอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนา หรือ เคยร่วมการสังคายนาพระไตรปิฎก ( เท่าที่ได้ฟังมา ไม่แน่ใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร) ในความคิดของข้าพเจ้า อยากจะขอให้ท่านทีได้มีโอกาสสักการบูชาพระธาตุอยู่แล้วพยายามสักการบูชาให้เกิดบุญกุศลกับตัวท่านให้มากที่สุด อยากจะขอให้ท่านมองพระธาตุท่านเสมือนว่า ท่านให้ข้อคิดต่างๆด้านธรรมะมากกว่า ที่จะมาคุยอวดกันว่า ท่านผู้ใดมีมาก ท่านผู้นั้นคือผู้ที่มีบารมีมาก เพราะพระธาตุมิใช่ของสะสมที่ไว้อวดบารมี ซ้ำยังก่อให้เกิดความโลภแก่ผู้อื่นเสียด้วยซ้ำ ให้เข้าใจว่าพระธาตุคือส่วนหนึ่งของพระสรีระของพระพุทธองค์ แล พระอรหันตสาวก เป็นเครื่องระลึกถึงคุณอันอเนกอนันต์ของพระพุทธเจ้า พระธรรม แล พระสงฆ์ รวมไปถึงการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการดำรงคงอยู่ของพระพุทธศาสนา จวบจนห้าพันพระวสา
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น พระพุทธศาสนา วันที่ตอบ 2008-03-29 13:14:34 IP : 125.25.199.149 |
ความคิดเห็นที่ 4 (1416435) | |
poon | พระธาตุจะลอยหรือไม่ลอยไม่สําคัญถ้าปฏิบัติจะรู้แจงเอง
|
ผู้แสดงความคิดเห็น poon วันที่ตอบ 2008-03-29 13:20:46 IP : 125.25.199.149 |
ความคิดเห็นที่ 5 (1416454) | |
ผู้หวังดี | พระธาตุเรามีไว้บูชาและเป็นเครื่องเตือนสติว่าเราจะทําดีและเป็นการเจริญศรัษธาเพื่อให้พุทธศากนิกชนศรัธามากขึ้นและท่านจะแสดงอภินิหารอะรไห้เราดูก้เป้นเรื่องส่วนบุคคลน่ะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้หวังดี วันที่ตอบ 2008-03-29 13:50:20 IP : 125.25.199.149 |
ความคิดเห็นที่ 6 (1416504) | |
พุ | ขอขอบพระคุณท่านปราชญ์ทั้งหลายที่อุตส่าห์เสียสละเวลาอันมีค่าของพวกท่านมาตอบปัญหาโง่เง่าของข้าพเจ้าที่ไม่เชื่อในองค์พระธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์นั้น บัดนี้ข้าพเจ้าเป็นหนี้บุญคุณท่านทั้งหลายแล้ว ที่สำคัญข้าพเจ้าเกิดปัญญาแล้ว ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง และขอโทษทางชมรมด้วยที่อุตส่าห์แบ่งให้แก่ข้าพเจ้าแต่ข้าพเจ้ายังเขียนออกมาในความไม่เชื่อถือ ขอโทษครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น พุ วันที่ตอบ 2008-03-29 15:41:54 IP : 118.174.52.19 |
ความคิดเห็นที่ 7 (1417490) | |
piangorr | พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุเป็นเรื่องปาฏิหารย์เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์อ้ะครับ ของผมเอง บางองค์ท่านก็ลอย บางองค์ท่านก็จม บางครั้งที่กำลังลอยอยู่ก็จม บางครั้งที่กำลังจมอยู่ก็กลับลอย อย่างครั้งแรกที่ลองลอยดู (ยอมรับครับว่าเพื่ออยากทดสอบ) ปรากฏว่าไม่มีองค์ไหนลอยเลย แต่ครั้งหลังที่มีเหตุต้องอัญเชิญมาลอยน้ำ (ครั้งนี้เพราะเจตนาสรงน้ำท่านด้วยความเคารพครับ) ทั้งๆที่เป็นองค์เดียวกันท่านก็กลับลอยอย่างอัศจรรย์ เพราะฉะนั้น ขออย่าได้ยึดมั่นในสิ่งเพียงเท่านี้เลยครับ ขอให้น้อมนำมาพระองค์มาเป็นอนุสติ คอยเตือนตัวเองให้อยู่ในศีลครองในธรรมจะดีกว่าครับ โมทนาสาธุในความดีของทุกๆท่านนะครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น piangorr วันที่ตอบ 2008-03-31 09:55:16 IP : 122.154.3.252 |
ความคิดเห็นที่ 8 (1417503) | |
พุทโธ | ดูก่อน ปุถุชนเอ๋ยเรื่องเหล่านี้ มันขึ้นอยู่ที่ศรัทธา อย่าไปยึดว่าเป็นตัวเป็นตน............................. |
ผู้แสดงความคิดเห็น พุทโธ วันที่ตอบ 2008-03-31 10:08:13 IP : 58.147.81.94 |
ความคิดเห็นที่ 9 (1417768) | |
พุ | ครับ กรณีของผมก็คงคล้ายๆกับคุณ piangorr ครับ เพราะเมื่อได้มาครั้งแรกผมก็อยากพิสูจน์เพราะองค์ท่านคล้ายก้อน***มากครับ ยิ่งมีสีดำเป็นคราบเหมือนก้อน***อีก พอไปลอยน้ำกลับจมอีก แล้วท่านที่อนุเคราะห์ก็ให้มาเยอะมาก ทั้งที่จริงของมีค่าทางจิตใจน่าจะให้พอสมควร แต่ก็สว่างและเข้าใจแล้วครับ ขอคุณมากครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น พุ วันที่ตอบ 2008-03-31 16:28:13 IP : 118.174.84.74 |
ความคิดเห็นที่ 10 (1428567) | |
น | ได้มาแล้วอย่าทดสอบครับ ให้ทำพิธีขอขมาเลย อย่ามีสงสัยเลย คิดเสียว่าเรามีพระพุทธรูปเพิ่มขึ้นมาอีก 1 องค์ เห็นมั้ยครับ เป็นอุบายอย่างนึง พอคิดได้แบบนี้ ก็สบายใจ คนที่ได้รับพระธาตุก็จะไม่มี วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัย ถ้าทำได้เราก็ลด นิวรณ์ 5 ไปได้แล้ว 1 ข้อ |
ผู้แสดงความคิดเห็น น วันที่ตอบ 2008-04-23 15:02:08 IP : 202.28.180.202 |
ความคิดเห็นที่ 11 (1431862) | |
โจโฉ | จริงๆ แล้วการลอยพระธาตุเพื่อทดสอบถือว่าเป็นบาป ถ้ารู้ว่าเป็นของจริง.... รู้แล้วยังทำนี่ปรามาสน่ะ บาป...แต่ถ้าต้องการทดสอบให้ขอขมาก่อน แต่จริงๆ ก็บาปอ๊ะ... สำหรับพระธาตุที่ลอยน้ำส่วนใหญ่ลักษณะผิ วจะมันวาว สันฐานมีขนาดเล็กมากครับไม่ใหญ่ และเวลาลอยให้ค่อยๆ วางลงในน้ำ หรือหาไม้เปียกน้ำมาสัมผัสและค่อยๆ วางบนผิวน้ำ ท่านจะลอยบนผิวน้ำและน้ำจะบุ๋มเป็นหลุมลงไปเล็กน้อย เมื่อลอยแล้วจะอยู่บริเวณกึ่งกลางของแก้วหรือภาชนะ ไม่ลอยไปติดขอบแก้วหรือขัน และเมื่อนำมาลอยหลายองค์ ท่านจะลอยมาเกาะกลุ่มกันเหมือนแม่เหล็กที่กึ่งกลางของภาชนะครับ ผมทดลองดูแล้วครับ ปวดหัวเหมือนใครเอาค้อนมาทุบมึนไปหมด ขนาดขอขมาแล้วน่ะครับ แต่มันจะได้หายสงกะสัย....พบว่าบางองค์ก็จะลอยบางองค์มวลหนักก็จะจมแต่ถ้ามวลใสมัน ขนาดไม่ใหญ่นักส่วนใหญ่จะเป็นดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อลองดูแล้วให้ขอขมาอีกครั้ง แต่จริงๆ แล้วไม่แนะนำให้ลอยครับ.....บาป บางทีเทวดาก็พาลโกรธเราด้วย...เทวดาก็โกรธเป็นน่ะครับ เพราะเทวดาพื้นฐานจะมีแค่หิริโอตัปปะ ศีล และความดีที่ทำให้เกิดเป็นเทวดา เมื่อเราบูชาพระธาตุ เทวดาท่านก็จะร่วมอนุโมทนาและร่วมกันปกปักรักษา อย่างเช่นที่เจดีย์ภูเขาทองบริเวณใกล้ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เทวดาท่านอยู่กันให้เยอะไปหมด ท่านเคารพมาก และพร้อมจะให้คุณแก่คนที่เคารพ และให้โทษแก่ผู้ปรามาสหรือทดสอบอะไรเพ้อเจ้อ ได้ เพราะเทวดาส่วนใหญ่ท่านรักพระพุทธเจ้า และเคารพพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ....อ๊ะน่ะ คิดเอาเองก็แล้วกัน เฮ้อ.... |
ผู้แสดงความคิดเห็น โจโฉ วันที่ตอบ 2008-04-30 23:16:09 IP : 61.7.139.44 |
ความคิดเห็นที่ 12 (1432699) | |
อนันต์ | ศรัทธาเกิด ปาฏิหาริย์เกิด ครับ |
ผู้แสดงความคิดเห็น อนันต์ วันที่ตอบ 2008-05-02 15:18:06 IP : 58.147.45.110 |
ก่อนหน้า1ถัดไป |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 541920 |