เรื่องมูลเหตุของพุทธบัญญัติห้ามภิกษุฉันเนื้ิอมนุษย์

Home

ชมรมรักษ์พระบรมธาตุ

วันพระวันนี้นำเรื่องมูลเหตุของพุทธบัญญัติห้ามภิกษุฉันเนื้ิอมนุษย์มาให้อ่านค่ะ

🙏อุบาสิกาสุปปิยา

เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้

ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จกรุงพาราณสี นางเข้าเฝ้าฟังธรรมครั้งแรกก็บรรลุโสดาปัตติผล

ครั้นมีพระภิกษุรูปหนึ่งเกิดอาการป่วย นางจึงเข้าไปถามพระภิกษุรูปนั้น ว่าต้องการฉันอะไร ท่านได้บอกนางว่าท่านต้องดื่มยาถ่ายท่านต้องการน้ำเนื้อต้ม นางจึงรับคำว่าจะนำมาถวายเป็นพิเศษ จึงให้คนรับใช้ไปหาซื้อเนื้อสัตว์หาซื้อทั่วแล้วก็ไม่พบเพราะเป็นวันพระห้ามฆ่าสัตว์ นางกังวลว่าภิกษุรูปนั้นจะไม่ได้ฉันเนื้อต้มจะอาพาธมากขึ้นจนถึงมรณภาพ การที่รับปากแล้วไม่นำไปถวายนั้นก็ไม่สมควรจึงหยิบมีดเฉือนเนื้อขาของนางแล้วให้ คนรับใช้นำไปต้มถวายพระภิกษุรูปที่อาพาธ สั่งคนรับใช้อีกว่าถ้าใครถามถึงบอกว่า นางป่วยแล้วเอาผ้าพันขาเข้าห้องนอน

ฝ่ายอุบาสกสุปปิยะสามีเมื่อรู้ว่าภรรยาป่วยจึงเข้าไปหาและทราบความจริงว่านางตัดเนื้อต้นขาจนเป็นแผลใหญ่ สามีดีใจที่ภรรยามีศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง(วิสัยของพระโสดาบันที่สามารถสละเลือดเนื้อ ทรัพย์สินของตนได้) จึงเข้ากราบทูลพระพุทธเจ้า กราบนิมนต์มาฉันภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น พระพุทธองค์ทรงรับนิมนต์ ด้วยพระเมตตา ถึงเวลาเช้าพระพุทธองค์ จึงเสด็จไปบ้านของอุบาสกสุปปิยะ และทรงถามถึงอุบาสิกาสุปปริยาไปไหน สามีก็บอกว่านางป่วย แต่พระองค์ก็ให้เชิญนางมา ถ้านางมาไม่ได้ก็ให้ช่วยพยุงกันมาสามีจึงได้พยุงภรรยามาเข้าเฝ้าเมื่อนางเห็นพระพุทธเจ้าแผลใหญ่ที่เกิดจากการเชือดเฉือนเนื้อของตนเองก็หายเป็นปกติมีเนื้อเต็มมาเหมือนเดิม ทั้งสองสามีภรรยายิ่งเกิดความปิติยินดีเลื่อมใสศรัทธา เมื่อพระพุทธเจ้า เสด็จกลับพระวิหารแล้วจึงสั่งประชุมสงฆ์ เรื่องการฉันเนื้อมนุษย์สาเหตุที่เกิดเป็นมูลเหตุแรกจึงเกิดพุทธบัญญัติห้ามฉันเนื้อมนุษย์และทรงสถาปนา นางสุปิยา ไว้ในตำแหน่ง เอตทัคคะที่เป็นเลิศกว่าอุบาสิกาผู้อุปัฏฐากพระภิกษุไข้

ภิกษุห้ามฉันเนื้อ 10 ชนิด

1.เนื้อมนุษย์

2.เนื้อช้าง

3.เนื้อม้า

4.เนื้อสุนัข

5.เนื้องู

6.เนื้อราชสีห์

7.เนื้อหมี

8.เนื้อเสือโคร่ง

9.เนื้อเสือดาว

10.เนื้อเสือเหลือง

สัตว์ที่ภิกษุไม่ควรฉัน 4 ประเภท