ReadyPlanet.com


อ่านสักนิดก่อนหลงเชื่อ
avatar
m


สวัสดีครับ สมาชิกชมรมรักพระธาตุ ทุกคนครับ ผมเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งชอบสะสม พระธาตุต่างๆ
พระบรมสารีริกธาตุ  ผมได้ พระบรมธาตุมาจากที่ที่นึง ซึ่งมีคนแจกไว้ให้บูชา ผมก็ขอมานิดนึง กะว่าจะเอาไปไว้วัดปริวาสให้ คนที่ศรัทธามาบูชากัน ก็ไปฝากหลวงพ่อสมชาย วัดปริวาส ท่านก็รับไว้ และวันรุ่งขึ้นผมไปหาท่านที่วัด ท่านบอกกับตัวผมว่า ไปเอามาจากไหนกัน นี่ไม่ใช่พระธาตุ หรือ พระบรมธาตุเลยแต่อย่างใด แต่เป็น กระดุกของคนธรรมดาและเป็นกระดูกผีที่ตายโหง ท่านได้นั่งเพ่ง กสิญ และได้นั่ง กรรมฐาน พิมพ์ไม่ถูกก็ขออภัยด้วย ผมก็อึ้งไปพักแต่ก็ไม่ได้จะคิดมากอ่ะไร กระดูกของผีตายโหง ผมกลับไปนั่งสวดมนต์กราบไหว้ ซะดิบดี ญาติก็ไม่ใช่ มันเลยเป็นจุดที่ผมไม่เชื่อเรื่อง พระบรมธาตุ และพระธาตุ ที่เค้าแจกจ่ายกันอีกเลย ผมก็ไม่ได้เล่าให้คุณๆที่อ่านเข้าใจผิดและหมดศรัทธากัน พระธาตุ พระบรมธาตุ นั้นมีอยู่จริง แต่ของดีจริงๆ จะมีอยู่มากมายแบบนี้เลยเหรอครับ พระธาตุที่ผมให้วัดไปนั้น มี พระบรมธาตุสัญฎาณ เม็ดข้าวสาร ที่เชื่อว่าเป็นจริง และ พระธาตุองค์คุลีมาล พระวักคัมปิติ และ พระบรมธาตุสัญฐานโลหิต สัญฐานโลหิต เป็นของแท้ ชิ้นเดียวที่ได้รับมา เป็นของ พระที่สำเร็จอรหันต์จริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นพระพุทธเจ้าหรือเปล่า ก็ไม่ทราบได้แต่เป็นของที่ดี ของดีแต่บารมีไม่ถึงก็เป็นดาบสองคม ท่านทั้งหลายที่มีพระธาตุต่างๆและพระบรมธาตุไว้ครอบครอง ท่านแน่ใจได้ไงว่าท่านไม่ได้ โดนแบบผม แลที่แ่ไปกว่านั้น พระธาตุองค์คุลีมาน เป็น ปะการัง - -  ไงหล่ะครับ ผมไหว้ปะการัง



ผู้ตั้งกระทู้ m โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2009-05-08 20:19:31 IP : 58.8.36.136


ก่อนหน้า1ถัดไป

ความคิดเห็นที่ 1 (2996933)
avatar
เด่นชัย

ต่างจิต  ต่างวาระ  ต่างศรัทธา  ต่างความเชื่อ

ขอบคุณมากครับ  ที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง 

เอาเป็นว่า  ใครอยากบูชา ก็เชิญบูชา   บุชาอะไรก็แล้วแต่ 

กระดูกผี  ก้อน***  เศษดิน  ประการัง  แล้วมันไม่ได้ไปทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน

ก็ทำไปเถอะครับ    อย่ามองโลกในทางแคบ  แบบนี้ เป็นการตีกรอบให้ตัวเองเปล่าๆ

 

อะไรที่เราไม่เชื่อ แต่ก็พิสูจน์ไม่ได้  ก็อย่าไปชักจูงให้คนเขาเชื่อตามเราเลยครับ

เรื่องอย่างนี้เป็น ปัจจัตตัง  รู้ได้ด้วยตนเอง  คนอื่นโง่กว่า หรือฉลาดกว่าเราก็มีครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น เด่นชัย วันที่ตอบ 2009-05-12 12:27:19 IP : 119.42.72.196


ความคิดเห็นที่ 2 (3016586)
avatar
avatar

 ผมเห็นด้วยกับคุณ m และ คุณเด่นชัย ครับเพราะผมก็เคยมีประสบการ และ ความเชื่่อ ที่คานกันเองภายในใจ มันบันทอนความศัทธามากเลยครับ

คือ เริ่มต้น รู้จักพระธาตุบางเล็กน้อย ตามสือโฆษณา บ้าง ให้ไปสักการะวัน โน้นบ้าง วัดนี้บ้าง ส่วนตัวผมรู้สึกว่าท่านสูงมากคนธรรมดาอย่างเราไม่มีวาสนาได้เห็นหลอก เพราะอยู่ในพะอบ บ้าง ตู้กระจกบ้าง ไปดูก็ดูไม่เป็น ครั้งหนึ่ง เคยเห็นพระบรมสารีริกธาตุที่พระเจ้าอยู่หัวของเราทรงโปรดให้วัดเห็นหนึ่งที่ จ.ลำปาง นำไปบูชา ประมาณ 3 เดือน ช่วงเข้าพรรษา พอดีผมไปทำงานแถวนั้น พอดีครับก็เวะเข้าไปชม แต่มองดูไม่รู้เรื่องเลยครับทั้งคนเยอะ และ แยงกันชม เห็นแต่พะอบครับัน้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้อยู่ไกล้พระธาตุที่สุดที่เป็นของแท้ครับ(เพราะเป็นของในหลวงเราเอง) และหลังจากนั้น ประมาณ 4 ปีได้ ครับผมได้ขึ้นไปทำงานที่จ.เชียงใหม่ พอดีงานเสร็จไว ผมเลยขับรถเทียวอย่างไม่ตั้งใจครับ ผมเทียวตามป้ายบอกทาง ไปพระไหว้พระธาตุได้ประมาณ 5 แห่งภายในวันเดียวครับ เรื่องมันเกิดที่ แห่งสุดท้ายครับ ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร จ.ลำพูลครับ ผมได้ไปไหว้พระธาตุ แล้วเดินไปเจอ แม่ชี ท่านให้เช่าพระธาตุครับ ผมเลยเข้าไปคุยกับท่านอย่างไม่ได้ตั้งใจ(พยายามจับผิด และ เค้นความจริงว่าสิ่งที่ท่านนำมาให้เช่าบูชานั้นว่าเป็นของ***ครับ) แม่ชีบอกว่า ได้มาจาก พระที่อาพาสรูปหนึ่ง ท่านชอบนั้งวิบัสนาตามป่า เขา และ ถ่ำ จะกลับมาเฉพาะช่วงจำพรรษาเท่านั้นครับ แต่วันนี้ท่านอาพาสหนัก เลยนำพระธาตุ มาให้ประชาชนบูชา 500 บ และท่านก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นเองได้ด้วย หรือ ดึงดูดพระธาตุองค์ อืนให้มาอยู่รวมกันได้  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ใจหนึ่งมันคิดว่าถ้าท่านป่วยจริงเราคงบาปแย่เลย หรือ อีกนัยหนึ่ง อยากรู้ว่าแท้หรือเปล่า ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นพระธาตุแบบชัดๆมาก่อน ไม่รู้ควักตั้งให้แม่ชีไปได้ไง เช่ามาก็ไม่คิดอะไรเพราะคิดแค่บริจาคทรัพย์ช่วยเหลือพระอาภาสแค่นั้นเอง ก็ได้เม็ดพาสติกกลมๆ ขนาดเท่าเม็ดโพมมา 10 เม็ด สีต่างๆกัน แล้วก็ขับรถกลับบ้าน อยู่ๆ ก็คิดขึ้นขึ้นมาว่ารู้ได้ไงว่าเป็นของแท้ ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พอถึงบ้านก็เริ่มศึกษา หาข้อมูล ทางเนตบ้าง หนังสือบ้าง แต่ก็คว้าน้ำเหลว เห็นแต่รูป ก็คิดคร้ายคุณ m ครับ ว่าเราจะแยกได้อย่างไรว่า ที่เรามีอยู่น้ันไม่ใช้แค่ก้อน*** เศษ*** หรือเม็ดพลาสติก เพราะท่านผู้รู้ทั้งหลายเมื่อถามมากๆ ก็จะตอบไม่ค่อยได้ และ ก็พลางโมโห เหมือนเราไปรบหลู่ท่าน แต่ผมก็ไม่กลัวบาปครับ เพราะ ผมนับถือ พระพุทธ พระธรรม และ อริยสงฆ์เป็นหลักครับ ตามแนวธรรมของพุทธองค์ ที่ว่า อย่าเชื่อตามที่เขาเราต่อกันมา อย่าเชื่อในอุปชาเอง ถ้าไม่ได้พิสูจน์ด้วย สติ ปัญญา หลักเหตุ และ ผล ให้ดีเสียก่อน แต่การพิสูจน์ของผมไม่ใช้นำท่านมาเผาไฟบ้าง แช่น้ำเกลือ บ้าง นำมาช่างน้ำหนักบ้าง หรือแม้แต่ นำมาถือ เล่นก็ตาม เมือผมยังไม่รู้ ว่าสิ่งที่ผมได้มานั้น เป็นของแท้หรือเป่า ผม ก็ให้ความเคารพสูงสุด ตามฐานะของท่าน บรรจุใส่พระอบไม้จันอย่างดี อัญเชิญประดิษฐานบนหิ้งพระ สวดสรรเสริญตามปรกติ ครับ ส่วนการพิสูจน์นั้นก้ได้จากการศึกษาให้มากขึ้น พิจรณาให้้ระเอียดขึ้น และพูดคุยกับผูที่มีพระธาตุที่น่าเชื่อถือได้ให้มากขึ้น สืบแหล่งที่พบท่าน ที่ได้นำมา สุดท้าย ก็พบพระธรรมธาตุที่แท้จริง พอพบเท่าน้นแหละ แยกเยะได้ทันที่เลยครับ สบายกาย สบายใจ คือ พระบรมสารีริกธาตุก็ดี พระอรหันตธาตุ ก็ดีท่านทั้งหลาย ได้ละซึ่งกิเลสแล้วทั้งปวง ไม่ยึดติดแล้วทั้งปวง ท่านได้นิพานแล้วทั้งปวง เหลือไวซึ่งแนวความคิด และ หลักธรรม ในการบรรลุซึ่งนิพาน ดังนั้น ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราก็คือธาตุ ก้อน***ก็คือธาตุ ไม้ก็คือ ธาตุ ปะการังก็คือ ธาตุ  พระพุทธรูปที่เรากราบไหว้บูชา ก็สร้างมาจากธาตุ ทั้งสิ้น แค่จิตเรากำหนดลักษณะธาตุให้เป็นที่ยึดเหนียวจิตใจเราเท่านั้นเอง เพราะ ทุกอย่างเป็นเพียงรูปธรรม แก่นแท้ตากหากที่เราลืมไป คือ ความวิริยะอุตสาหะ ในการหลดพ้นวัตสงสาร หลุดพ้นจากกิเลส ตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้ อย่างเทียวตามหาพระธาตุที่แ้ท้จริงเลย ควรตามหาแก่นธรรมที่แท้จริงตากหาก เหมือนดังว่า เมื่อท่านมองเห็นธรรมก็เหมือนมองเห็นเราตถาคต ดั้งนั้น เมื่อ การบูชาปะการรัง ก็กลายเป็นพระธาตุได้ครับ ในกรณีกลับกัน บุคลหนึ่งบุคนใดได้รับพระธาตุของแท้มาแต่บรรพบุรุษ แต่หาได้สนใจในธรรมนั้นไม่ พระธาตุก็เป็นแค่***ธรรมดา หรือ อาจจะเสด็จหายไปเลยก็ได้ครับ เมื่อคิดได้ดังนี้แล้วก็สบายใจมากๆ เลย เชื่อใหมครับว่า ผมกลับได้พระธาตุที่มีคนนำมาให้อีก และ ที่สำคัญที่สุดคือ ท่านแสดงปฎิหารให้ประจักแก่ครอบครัวของขาพเจ้าคับ คือ ท่านเปล่งรัศมีออกมาตอนประมาณ ตี 1 นาน 30 นาทีเลยคับ พะอบที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุจะสว่างมากเลยครับ รอบๆที่พะอบที่บรรจุพระอรหันตธาตุ จะส่องแสงน้อยกว่า เป็นที่น่าอัศจรรย์มากครับ เหลือเชื่อมาก แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นกับครอบครัวผมจิงเพราะผมไม่มีเหตุผล ที่ต้อง***ใครครับ ดังนั้นทำใจให้สบายและศึกษาธรรมะของพุทธองค์เดียวท่านจะแสดงปฏิหารให้แกผู้ที่ศัทธาในธรรมเองครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น avatar (dew_ket7-at-yahoo-dot-com)วันที่ตอบ 2009-06-09 10:51:51 IP : 125.25.81.198


ความคิดเห็นที่ 3 (3027057)
avatar
cunchit

ขอโมทนาครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น cunchit วันที่ตอบ 2009-06-24 20:56:00 IP : 203.121.167.243


ความคิดเห็นที่ 4 (3034812)
avatar
นัท

ขออนุโมทนาค่ะ ชอบตรงที่ว่า ทุกสิ่งอย่างคือธาติ สำคัญที่ใจใฝ่ธรรม ขององค์พระศาสดาน่ะค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น นัท (blessalonetime-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-07-05 12:43:58 IP : 210.213.22.246


ความคิดเห็นที่ 5 (3072517)
avatar
คนที่เช่าพระธาตุมา

คุณที่ซื้อ พระธาตุมาจาก พระธาตุหริภุญชัย ลำพูนครับ     บังเอิญมากมาก หรือพรหมลิขิตนะ   ผมก็เช่ามาที่เดี่ยวกับคุณเลย  ผมเช่ามาวันที่ 18 สิงหาคม 2552    ยังไงโรมาหาผมหน่อยครับ  เบอร์ผม  087 9996906   email pongsakorn39@hotmail.com    ผมอยากรู้เรื่องประสบการณ์ของคุณอีก   ขอบคุณครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนที่เช่าพระธาตุมา (pongsakorn39-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2009-08-24 20:02:22 IP : 58.8.76.3


ความคิดเห็นที่ 6 (3210340)
avatar
คนค้นคน

แล้วแต่คนสัมผัส บางที่ผมก็สัมผัสไดเลยได้ไปเอาพระสีวลีองค์หนึงมาบูชา สอบถามพระองค์หนึงเป็นเจ้าอาวาสแถวสุโขทัยเขาไม่เชื่อครบว่าเป็นพระสีวลีแต่ไปสอบถามอีกองค์หนึ่งว่าเป็นพระสีวลีขึ้นกับคนท่เราเอาไปถามครับแต่ถ้าหลวงพ่อวัดปริวาสตอบน่าเชื่อถือครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนค้นคน วันที่ตอบ 2010-04-10 11:04:42 IP : 58.9.11.242


ความคิดเห็นที่ 7 (3358256)
avatar
หกเจ็ดสี่

แล้วเชื่อได้อย่างไรครับ ว่าพระที่นั่งเพ่งอยู่นั้น ท่านมีญาณหยั่งรู้ได้จริง เรื่องพระธาตุนั้นใช้วิธีดูลักษณะจากตำราดีกว่า ไม่ต้องเพ่ง
 

ผู้แสดงความคิดเห็น หกเจ็ดสี่ วันที่ตอบ 2013-05-21 07:04:10 IP : 223.204.230.53



ก่อนหน้า1ถัดไป


Copyright © 2010 All Rights Reserved.