ReadyPlanet.com


ทศพลญาณ ๑๐ ประการ
avatar
กองทัพอภิญญา


ทศพลญาณ ๑๐ ประการ

ตทนนฺตรํ ลำดับนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสเทศนา ต่อไปอีกว่า อานนฺท ดูกรอานนท์ ความทุกข์ในนรกและ ความสุขในสวรรค์และพระนิพพานนั้นใครจะช่วยใครไม่ได้ เมื่อใครชอบอย่างใดก็ทำอย่างนั้น แม้เราตถาคตก็ช่วยใคร ให้พ้นทุกข์ และช่วยใครให้ได้สวรรค์และพระนิพพานไม่ได้ ได้แต่เพียงสั่งสอนชี้แจงให้รู้สุขรู้ทุกข์ ให้รู้สวรรค์ ให้รู้ พระนิพพานด้วยวาจาเท่านั้น อันกองทุกข์ โทษ บาป กรรมทั้งปวงนั้น ก็คือตัวกิเลสตัณหา ครั้นดับกิเลสตัณหา ได้แล้ว ก็ไม่ต้องลงนรก ถ้าดับกิเลสตัณหาได้มากก็ขึ้นไป เสวยสุขในสวรรค์ ถ้าดับกิเลสตัณหาได้สิ้นเชิงหาเศษมิได้แล้ว ก็ได้เสวยสุขในพระนิพพานทีเดียว เราตถาคตบอกให้รู้แต่ ทางไปเท่านั้น ถ้าผู้รู้ทางแห่งความสุข แล้วประพฤติปฏิบัติ ตามก็ได้ประสบสุขสมประสงค์ อย่าว่าแต่เราตถาคตเลย แม้พระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ล่วงไปแล้วนับไม่ถ้วนก็ดี และ จะมาตรัสรุ้ในกาลเป็นภายหลังก็ดี จะมาช่วยพาเอา สัตว์ทั้งหลายไปให้พ้นจากทุกข์ แล้วให้ได้เสวยสุขเช่นนั้น ไม่มี มีแต่มาแนะนำสั่งสอนให้รู้สุขรู้ทุกข์ รู้สวรรค์ และ พระนิพพานอย่างเดียวกันกับเราตถาคตนี้ พระพุทธเจ้า ทั้งหลายก็ทรงไว้ซึ่งทศพลญาณ มีอาการเหมือนอย่างเรา ตถาคตนี้ทุกๆ องค์ บุคคลจำพวกใดเข้าใจว่าพระพุทธเจ้า ต่างกันด้วยศีล ด้วยฌาณ ด้วยญาณ ด้วยอิทธิ บุคคล จำพวกนั้นเป็นคนหลง ผู้ที่ได้นามว่าพระพุทธเจ้านั้น ต้องมี ทศพลญาณสำหรับขับขี่เข้าสู่พระนิพพานด้วยกันทุกองค์ จะได้เป็นพระพุทธเจ้าแต่เราพระองค์เดียวนั้นหามิได้ ผู้ใด มีทศพลญาณ ผู้นั้นได้ชื่อว่าพระพุทธเจ้าด้วยกันทุกองค์ ไม่ควรจะมีความสงสัย ญาณ ๑๐ ประการนั้นเป็นเครื่องหมาย ของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่มีญาณ ๑๐ ประการแล้ว จะรู้ดีมีอิทธิ ดำดินบินบนได้อย่างไรๆ ก็ตาม ก็ไม่เรียกว่าพระพุทธเจ้า ถ้ามีญาณ ๑๐ ประการแล้ว จะไม่มีอิทธาศักดานุภาพ อย่างไรก็ตาม ก็ให้เรียกท่านผู้นั้นว่าพระพุทธเจ้า เพราะ ทศพลญาณ ๑๐ ประการเป็นเครื่องหมายของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่มีเครื่องหมายอย่างนี้ ผู้ใดมีฤทธิ์มีเดชขึ้น ก็จะตั้งตัว เป็นพระพุทธเจ้าเต็มบ้านเต็มเมือง ก็จะเป็นทางแห่งความ เสียหายวุ่นวายโลกเท่านั้น ดูกรอานนท์ ทศพลญาณ ๑๐ ประการนั้น เป็นของสำคัญตั้งอยู่สำหรับโลก ไม่มีผู้ใดตั้งแต่ง ขึ้น เป็นแต่เราตถาคตเป็นผู้รู้ผู้เห็นก่อนแล้วยกออกตีแผ่ ให้โลกเห็น พระพุทธเจ้าทั้งหลายบำเพ็ญญาณ ๑๐ ประการ ได้แล้ว ก็ขับขี่เข้าสู่พระนิพพาน เมื่อถึงพระนิพพานแล้ว ก็ปล่อยวางญาณนั้นไว้แก่โลกตามเดิม หาได้เอาตัวตน เอาจิตใจเข้าสู่พระนิพพานด้วยไม่ เอาจิตใจไปได้เพียงนรก และสวรรค์ และพรหมโลกเท่านั้น ส่วนพระนิพพานนั้น ถ้าดับจิตใจไม่ได้แล้วก็ไปไม่ได้ ถ้าเข้าใจว่าจักเอาจิตไป เป็นสุขในพระนิพพานแล้ว ต้องหลงขึ้นไปเป็นอรูปพรหม เป็นแน่ ดูกรอานนท์ การตกนรกและขึ้นสวรรค์ จะเอาตัว ไปไม่ได้ เอาแต่จิตไป จิตนั้นใครจะจับต้องลูบคลำไม่ได้ เป็นแต่ลมเท่านั้น เพราะจิตเป็นของละเอียด ใครจะจับถือ ไม่ได้ เมื่อจิตไปตกนรก ใครจะไปช่วยยกขึ้นได้ ถ้าจิตนั้น เป็นตนเป็นตัวก็พอช่วยกันได้ บุคคลจำพวกใด คอยท่าให้ ผู้อื่นมาช่วยยกตัวให้พ้นจากทุกข์ นำตัวไปให้ได้เสวยสุข บุคคลจำพวกนั้นเป็นคนโง่เขลาหาปัญญามิได้ เราตถาคต รู้นรกสวรรค์ทุกข์สุขอยู่แล้ว และหาอุบายที่จะพ้นจากทุกข์ ให้เสวยสุข ก็เป็นการแสนยากแสนลำบาก จะไปพาจิตใจ ของท่านผู้อื่นให้พ้นจากทุกข์ได้อย่างไร ถึงแม้พระพุทธเจ้า องค์จะตรัสรู้ในเบื้องหน้าก็เหมือนกัน มีแต่แนะนำสั่งสอน ให้รู้สุขทุกข์สวรรค์และพระนิพพานเท่านั้น ผู้ที่จะต้องการ สุขทุกข์อย่างใดนั้น แล้วแต่อัธยาศัย แต่ว่าต้องศึกษาให้ รู้แท้แน่นอนแก่ใจเสียก่อนว่าทุกข์ในนรกเป็นอย่างนั้น สุข ในสวรรค์เป็นอย่างนั้น สุขในพระนิพพานเป็นอย่างนั้น เมื่อรู้แล้วยังจะมีทางได้ทางถึงบ้าง คงจะไม่ท่องเที่ยวอยู่ใน วัฏฏสงสารเนิ่นนานเท่าไรนัก ถ้ายังไม่รู้แจ้งแต่เมื่อยังมี ชีวิตอยู่ก็ไม่อาจจะพ้นได้เลย และได้ชื่อว่าเป็นผู้เกิดมา เสียชาติเป็นมนุษย์เสียความปรารถนาเดิม ซึ่งหมายว่าจะ เป็นผู้เกิดมาเพื่อความสุข ครั้นเกิดมาแล้วก็พลอยไม่ให้ตน ได้รับความสุข ซ้ำยังตนให้จมอยู่ในนรก ทำให้เสียสัตย์ ความปรารถนาแห่งตน น่าสังเวชสลดใจยิ่งนัก ข้าแต่ พระมหากัสสปะผู้มีอายุ พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาแก่ข้าฯ อานนท์ ดังนี้แล.

ตถาคตพลญาณ ๑๐ ประการ หรือ ทศพลญาณ คือ
. ทรงหยั่งรู้สิ่งที่เป็นไปได้ และ เป็นไปไม่ได้
. ทรงหยั่งรู้ผลแห่งการกระทำทั้ง อดีต ปัจจุบัน อนาคต
. ทรงหยั่งรู้ข้อปฏิบัติ ที่จะนำไปสู่คติทั้งปวง (คติ-ทางที่จะไปในอนาคต)
. ทรงหยั่งรู้สภาวของโลก อันประกอบด้วยธาตุต่างๆ
. ทรงหยั่งรู้ความโน้มเอียง และความถนัดแห่งบุคคล
. ทรงหยั่งรู้ความยิ่งและความหย่อน แห่งอินทรีย์ของสัตว์ทั้งหลาย
. ทรงหยั่งรู้ความเศร้าหมอง ความผ่องแผ้ว การออกแห่งญาณ สมาธิ และ สมาบัติ
. ทรงหยั่งรู้ชาติก่อนๆในอดีต
. ทรงหยั่งรู้จุติ และอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย
๑๐. ทรงหยั่งรู้ความสิ้นไป แห่งอาสวะทั้งหลาย



ผู้ตั้งกระทู้ กองทัพอภิญญา โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2007-11-28 15:25:42 IP : 58.9.5.60


ก่อนหน้า1ถัดไป

ความคิดเห็นที่ 1 (3031335)
avatar
ไม่ดี

ไม่รู้เรื่องเลยเรียนทำไม ไม่รู้........................................กราบเรียนอาจารย์ที่เคารพ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไม่ดี วันที่ตอบ 2009-06-30 19:14:38 IP : 124.121.115.96


ความคิดเห็นที่ 2 (3072201)
avatar
ผู้ยังดีไม่ถึงดี ^^

^^ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามกำลังสติปัญญา สิ่งที่เราไม่เชื่อและไม่รู้ มิได้หมายความว่าสิ่่งเหล่านั้นสภาวเหล่านั้นไม่มี จะหาไม่ สาธุๆๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ผู้ยังดีไม่ถึงดี ^^ วันที่ตอบ 2009-08-24 13:14:28 IP : 203.149.16.36


ความคิดเห็นที่ 3 (3146516)
avatar
เมื่อตายก่อน ก็ไม่ต้องตาย ไม่ต้องเกิด

เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตนเท่านั้น อบรบจิตใจให้ถูกต้อง ย่อมเกิดปัญญา

ผู้แสดงความคิดเห็น เมื่อตายก่อน ก็ไม่ต้องตาย ไม่ต้องเกิด วันที่ตอบ 2009-12-24 17:14:07 IP : 110.164.239.69



ก่อนหน้า1ถัดไป


Copyright © 2010 All Rights Reserved.