ReadyPlanet.com
dot dot
dot
บทความพิเศษของกิจกรรมในเดือนกรกฎาคม : สองเงาในมองโกเลียตอนที่๖ article

 

            เช้าวันที่ 16 กรกฎาคมผมและโมชตื่นแต่เช้าประมาณตีสี่ครึ่งเพื่อเตรียมขึ้นรถบัสที่นัดหมายพวกเราตอนเวลาตี 5 ตั้งแต่ผมรู้จักเพื่อนชื่อ
โมชมานั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เพื่อนผมคนนี้ใช้เวลาอาบน้ำเพียงแค่ “5นาที!” พวกเรากลัวตกเครื่องบินกันมากจึงยอมเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมของตนเองให้เข้ากับสถานการณ์
“555 ถึงแม้พวกผมจะเร่งรีบอย่างไรก็ตาม ผมและโมชก็เป็นคู่สุดท้ายที่ช้าที่สุดที่มาถึงรถบัสคันนี้” เช้าวันนี้เป็นเช้าที่เต็มไปด้วยความ
วุ่นวาย ผมต้องรีบเอากระเป๋ามาเก็บไว้และรีบวิ่งขึ้นมาบนรถเพื่อออกเดินทางทันที ข้างในรถมีผู้โดยสารประมาณ 30 คน ผมรู้สึกเซ็งทันที
เพราะผมคิดว่าผู้โดยสารในนี้คงมานั่งรออยู่ในรถตั้งนานแล้วและคงรอผมกับโมชซึ่งเป็นคู่สุดท้ายแม้ผมจะเห็นเข็มสั้นของนาฬิกาชี้ที่แลข 5
และเข็มยาวชี้ที่เลข 12 ตอนที่ที่ผมวิ่งขึ้นมาบนรถแล้วก็ตามที
แต่แล้วรถบัสที่สตาร์ทเครื่องรอผู้โดยสารคันนี้กลับไม่ออกเดินทางทันทีที่พวกผมมาถึง ผมได้ยินเสียงผู้หญิงท่านหนึ่งซึ่งนั่งบริเวณด้านหลังกำลัง
โวยวายเป็นภาษาจีนและเดินผ่านที่นั่งผมด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เธอเดินมาที่คนขับรถและบ่นอะไรบางอย่างกับโชเฟอร์และพนักงานโรงแรม
นานประมาณ 5 นาที จากนั้นเธอก็เดินกลับไปที่นั่งของตัวเองและรถบัสก็เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าไปที่สนามบินอย่างเร่งรีบด้วยความเร็ว 60
 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเอง
ผมถามคุณอาเจริญด้วยความสงสัยว่าทำไมผู้หญิงคนนั้นต้องโวยวายเสียงดังใส่คนขับรถกับพนักงานโรงแรมขนาดนั้น จึงทราบว่าเหตุผลว่าเธอ
ต้องขึ้นเครื่องบินตอน 6 โมงเช้า แต่ไม่มีรถมารับตอนตี 4 ทั้งๆที่ในใบนัดบอกว่าจะมารับตอนตี 4 เธอจึงมีความเสี่ยงที่จะตกเครื่องอีกรอบ
เนื่องจากเวลาที่เดินทางจากโรงแรมไปถึงสนามบินใช้เวลาประมาณ 30 นาทีบวกกับการเสียเวลาเช็ค Passport และสัมภาระต่างๆ
ในสนามบินนั่นเอง ส่วนพวกเราคนไทยทั้ง 5 ที่จะเดินทางไปมองโกเลียต่อนั้นสบายใจหายห่วงได้เพราะเครื่องบินออกเดินทางเวลาเจ็ดโมงครึ่งครับ
สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินครั้งแรกของโมชนั้น มีเรื่องสร้างความจุกจิกให้กับแผนกตรวจสิ่งของก่อนขึ้นเครื่องบินพอสมควร ก็เพราะ
กระเป๋าสะพายประจำตัวโมชนะซิครับ กระเป๋าในนิดเดียวแทนที่จะเก็บเงินไว้เยอะๆ แต่กลับมีแต่วัตถุมงคลมากมาย ทั้งพระเครื่อง ตะกรุด สีผึ้ง
 ผ้ายันต์ แว่นส่องพระ นามบัตร แว่นกันแดดและวัตถุมงคลอื่นๆที่ผมไม่รู้จัก ตอนขึ้นเครื่องจากเมืองไทยก็ไม่ค่อยมีปัญหามากหรอกครับเพราะ
พนักงานตรวจสิ่งของย่อมรู้จักวัตถุมงคงเหล่านี้ดีอยู่แล้ว แต่พอมาขึ้นเครื่องที่ประเทศจีนนี่ซิครับกระเป๋าของโมชต้องถูกสแกนแล้วสแกนอีก ต้อง
เทออกจากกระเป๋ามาดูว่ามีอะไรบ้าง เพราะคนจีนไม่รู้จักวัตถุมงคลเหล่านี้
เมื่อผ่านพ้นการตรวจเรียบร้อยแล้วโมชก็เก็บของที่ถูกเทออกมาให้เรียบร้อยเหมือนเดิม ผมกะว่าจะเข้าไปช่วยเก็บซะหน่อย แต่พอผมเห็นเพื่อน
คนนี้จัดเก็บของอย่างมีระเบียบ รู้ว่าของอะไรต้องใส่ก่อนอะไรต้องใส่หลังเพื่อจัดสรรพื้นที่ในกระเป๋าให้พอดีโดยที่กระเป๋าไม่ตุงแล้ว ผมว่าผม
ไม่ช่วยดีกว่าเพราะถ้าเป็นผม ผมจะยัดๆใส่เข้าไปอย่างรวดเร็วตามประสาคนมักง่ายอ่ะ
ระยะเวลาจากปักกิ่งไปถึงอูลาบาตอร์เมืองหลวงของมองโกเลียใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ผมตื่นขึ้นจากเสียงของลำโพงที่แจ้งว่าอีก 30 นาที
เครื่องจะลงจอด ผมมองออกไปที่หน้าต่างเพื่อดูวิวทิวทัศน์ของมองโกเลีย ผมตกใจมากที่เห็นแนวเทือกเขาของมองโกเลียเป็นสีเขียวเต็มไปหมด
“เฮ้ย มองโกเลียมีต้นไม้เยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย นึกว่ามีแต่ทะเลทราย” ผมคิดแบบนี้เพราะสมัยเด็กๆเคยท่องหนังสือสังคมที่บอกว่าบรรพ
บุรุษชาวไทยมาจากทะเลทรายโกบีในมองโกเลีย แต่พอเครื่องบินเริ่มบินต่ำลงๆผมจึงทราบว่าเทอกเขาเขียวที่เห็นเหล่านั้น แท้ที่จริงแล้วคือทุ่งหญ้า
ที่ปกคลุมไปทั่วเทือกเขาต่างหากซึ่งไม่มีต้นไม้ซักต้นเดียวเลย เครื่องบินเริ่มบินต่ำลงๆผมเริ่มเห็นทะเลสาบและลำธารเยอะแยะมากมาย ผมกวาด
สายตาไปทั่วและต้องตกใจในทันทีเมื่อผมเห็นหลุมขนาดใหญ่มากกกกกก แถมมีเสียงดัง “คร่อกๆ”ด้วย 555 เพื่อนผมมันนอนกรนอ้าปากหวอนี่เอง^^
  
 
 
                 
ภาพ landscape ประเทศมองโกเลียจ้า^^
และแล้วเท้าของผมก็มาสัมผัสประเทศมองโกเลียจนได้ เย้ๆๆๆดีใจสุดๆกว่าจะมาถึงที่นี่ได้มีอุปสรรคให้ตื่นเต้นเยอะจริงๆ พวกเรามาถึงสนามบิน
อูลาบาตอร์ตอนประมาณ 11 โมง สนามบินแห่งนี้มีขนาดมากเล็กกว่าสนามบินภูเก็ตอีก คุณคิมมารอรับพวกผมและครอบครัวคุณอากรรณิการ์
บริเวณห้องBoarding pass และมีเจ้าหน้าที่ของสนามบินช่วยจัดการเรื่อง passport ของพวกเราทั้ง 5 คนโดยที่พวกเรา
ไม่ต้องต่อแถวรอคิวแต่ให้พวกเราไปนั่งรอในห้องรับรองของสนามบินแทน
ในระหว่างรอ passport  คุณคิมได้อธิบายกำหนดการคร่าวๆในหมายกำหนดการที่เธอเตรียมไว้ให้ เนื่องจากวันแรกของกำหนดการ
เดิมพวกเราทั้งห้าต้องไปร่วมพิธีเปิด NADAAM FESTIVAL ที่เมือง BORNOR แต่พวกเราตกเครื่องบินในวันแรกนี่ซิ กำหนดการ
จึงถูกปรับเปลี่ยนในทันที อย่างไรก็แล้วแต่ BORNOR ก็ยังเป็นสถานที่ที่พวกเราต้องไปเพื่อไปพบท่านลามะภูริบัตและร่วมงาน
NADAAM FESTIVAL อีกสองวันที่เหลือ (เทศกาล NADAAM FESTIVALมี 3 วัน)
รถที่นำมารับพวกเราทั้งห้า เป็นรถ TOYOTA LEXUS และ TOYOTA RAV4สำหรับใช้เป็นที่เก็บสัมภาระ ครับ พวกเราทั้งห้า
และคุณคิมนั่งอัดกันในรถ LEXUS ยังก่ะปลากระป๋องซึ่งโชคดีนะครับที่ทริปนี้มีแต่คนตัวผอมๆ โดยเฉพาะผมเอว 28 เองแห้งเป็นปลากรอบเลย
 555.... เมือง BORNOR เป็นเมืองชนบทเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ไกลออกไปจากอูลาบาเตอร์ไปหลายกิโล (เกือบร้อยโล) ถ้าชนบทของ
เมืองไทยมีแต่ทุ่งนา ชนบทของมองโกเลียก็มีแต่ทุ่งหญ้าเช่นกัน ซึ่งจากการสังเกตุของผมวิวทิวทัศน์ของชนบทในมองโกเลียมีอยู่ 3 อย่างเท่านั้นเอง
1.    แนวเทือกเขาที่มีทุ่งหญ้าสูงไม่เกิน 3 นิ้ว ถนนลูกรังสลับกับถนนลาดยางและลำธารเป็นบางช่วง
2.    บ้านเรือนขนาด 1 ชั้นและกระโจมสีขาว โดยมีรั้วล้อมแสดงอาณาเขตของบ้านแต่ละหลัง
3.    ฝูงสัตว์มีทั้ง ม้า แพะ แกะ วัว จามรี
นอกนั้นผมไม่เห็นอะไรที่แปลกไปจาก 3 ข้อนี้เลย แม้แต่ต้นไม่ซักต้นยังเห็นได้ยากมาก ผมนั่งฟังการสนทนาของงคุณคิมกับคุณอากรรณิการ์
แล้วรู้สึกว่าทั้งสองท่านนี้น่าจะรู้จักกันมาก่อนเพราะคุยสนิทกันเป็นอย่างดี....ใช่ครับทั้งสองท่านต่างก็รู้จักกันมาก่อน คุณอากรรณิการ์บอก
ผมว่าท่านเคยมามองโกเลียแล้วครั้งหนึ่งซึ่งตอนนั้นคุณอากรรณิการ์มากับคณะของแม่ชีศันสนีย์ การมาเยือนในครั้งนั้นลำบากกว่าครั้งนี้มากเพราะถนน
ไม่เรียบเหมือนครั้งนี้ รถที่ใช้ก็ไม่สะดวกสบายเหมือนครั้งนี้ อากาศก็หนาวเย็นกว่า อีกทั้งมิได้เตรียมอาหารแห้งจากเมืองไทยมารับประทานเลย จึงต้อง
รับประทานแต่อาหารที่แห้ง แข็งและจืดเป็นส่วนใหญ่
การสนทนาระหว่างคุณอากับคุณคิมส่วนใหญ่จะพูดคุยกันเรื่องการมาเยือนมองโกเลียครั้งแรกของคุณอากรรณิการ์และเรื่องทั่วๆไปในมองโกเลียสำหรับ
ผมก็นั่งฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่มีประเด็นหนึ่งที่ผมตั้งใจฟังทันที ที่มองโกเลียมีทรัพยาการน้ำมันและแร่ธาตุต่างๆมากมายทั้งน้ำมันทองแดง ทองคำ ถ่านหิน
 ซึ่งมีชาวต่างชาติมาสำรวจค้นพบมากมาย คุณคิมบอกกับพวกเราว่าแม้มองโกเลียมีน้ำมัน แต่บ่อน้ำมันที่ขุดพบนั้นยังไม่มากพอสำหรับการพัฒนา
เศรษฐกิจประเทศและการพาณิชย์ จึงมีหลายพื้นที่ที่รอการสำรวจขุดเจาะอีกมาก ที่ประเทศแห่งนี้ไม่มีโรงกลั่นน้ำมันครับ ดังนั้นน้ำมันที่ขุดเจาะได้จะถูกส่ง
ออกไปให้ประเทศจีนเพื่อกลั่นเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆและท้ายสุดก็ต้องนำเข้าน้ำมันที่ถูกกลั่นแล้วเอาเข้ามาขายในประเทศอีกทีหนึ่ง
ตอนแรกผมเข้าใจว่า BORNOR คือเมืองหนึ่งของประเทศนี้ ผมเข้าใจผิดครับ BORNOR คือชื่อหมู่บ้านต่างหาก และเป็นบ้านเกิดของลามะภูริบัด
ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูศิลปะวัฒนธรรมและศาสนาของประเทศมองโกเลีย
โชเฟอร์พาพวกเรามาที่วัดประจำหมู่บ้านแห่งนี้ เมื่อผมก้าวขาลงจากรถปุ๊บ สิ่งที่ผมเห็นเป็นอย่างแรกคือ ชาวบ้านที่ขี่ม้าไปมาตามถนนและทุ่งหญ้า
และสิ่งที่ทำให้ผมต้องตกตะลึงเมื่อผมเห็น “ส้วม”
ส้วมตามชนบทของมองโกเลียจะเป็นห้องเล็กๆกว้างยาวข้างละประมาณ 1 เมตร สูงประมาณ 1.8 เมตร ส้วมที่นี่ไม่มีน้ำใช้ ไม่มีชักโครก ไม่มีส้วมซึม
 มีแต่หลุมที่ลึกประมาณ 3 เมตรและมีแผ่นไม้วางขัดไว้ 2 ข้างเป็นที่เหยียบเพื่อให้นั่งยองๆปลดทุกข์เบาและหนัก สำหรับในหลุมข้างล่างมีอะไรบ้างผมคง
ไม่ต้องบรรยาย แต่ที่แน่ๆเลยคือสิ่งที่โบยบินขึ้นมาจากหลุมข้างล่างออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามที่พวกมันอิ่มหมีพีมันนั่นก็คือ “แมลงวัน”
 ผมอึ้งไปประมาณ 3 วินาทีกับส้วมที่เห็นและคิดในใจว่า “นี่เราต้องใช้ส้วมแบบนี้ตลอด 7 วันที่เหลือจริงๆหรือเนี่ย!” เฮ้อ...คิดไปก็รกสมอง
ผมตามกลุ่มคุณอาเข้าไปในวัดดีกว่า
                บุคคลแรกที่ต้อนรับพวกเราคือคุณ DELGERMAA(เขียนชื่อตามนามบัตรที่เธอให้มา) คุณ DELGERMAA พาพวกเรา
ไปพบลามะภูริบัด และรองพระสังฆราชของมองโกเลียในกระโจมสไตล์มองโกเลียที่ท่านผู้อ่านน่าจะเคยได้เห็นในหนังจีนหลายๆเรื่องเช่นมังกรหยก
 เจงกีสข่าน ซึ่งกระโจมหลังนี้อยู่ด้านหลังของวัด ลามะทั้งสองนั่งรอต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร อีกทั้งมีผู้อาวุโสซึ่งผมเดาว่าคงเป็นผู้ใหญ่บ้านของ
หมู่บ้านนี้มารอต้อนรับพวกเราเช่นกัน ตามธรรมเนียมของชาวมองโกเลีย เมื่อมีแขกมาเยี่ยมเยือนเจ้าบ้านจะเสิร์ฟนมเปรี้ยวที่ทำมาจากนมม้า
 (ตักนมเปรี้ยวจากโอ่งด้วยกระบวยใส่ขันแล้วเวียนกันดื่ม)พร้อมกับโยเกิร์ตแท่งภาษามองโกเลียเรียกว่า Eezgii
(ใครอ่านออกบ้างช่วยบอกที คุณ DELGERMAA เขียนให้ผมดูอ่ะ) ให้กับพวกเรา
                อ๋า...นมเปรี้ยวนี่แหละครับอาหารประจำชาติของมองโกเลีย โดยปกติผมเป็นคนที่ชอบกินนมเปรี้ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยาคู๋ บีทาเก้น
ดัชมิลล์ ไพแกน ผมดื่มมาหมดแล้ว ดังนั้นนมเปรี้ยวของมองโกเลียย่อมเป็นสิ่งที่ผมต้องการชิมอย่างแน่นอน ในสัมผัสแรกที่สิ้นผมกระทบกับนมเปรี้ยวนั้น
 ผมสัมผัสได้ 2 อย่างด้วยกัน1.) กลิ่นคาวแบบนมม้า(คาวกว่านมแพะอีก) 2.) รสเปรี้ยวแบบนมบูด
                คนกินเก่ง กินง่ายอย่างผมเมื่อได้ลองชิมนมเปรี้ยวแค่อึกเดียวเท่านั้น ผมรีบส่งต่อให้โมชทันที และแน่นอนครับชาวไทยทั้ง 5 ไม่มีใครทานได้
 ยิ่งเจอห้องน้ำแบบที่ผมกล่าวมาแล้วข้างต้น ผมคงไม่กล้าท้องเสียอย่างแน่นอน ส่วนโยเกิตแท่งที่ผมได้ลิ้มลอง รสชาตินั้นเหมือนนมเปรี้ยวทั้ง 2 ข้อเลยแถมแข็ง
มากด้วย (แข็งกว่าขนมถั่วตัดอีกครับ)
                ในวงสนทนาระหว่างการพูดคุยระหว่างลามะทั้ง 2 กับคุณอากรรณิการ์โดยสนทนาผ่านคุณคิมและคุณ DELGERMAA นั้น ผมและโมชไม่ค่อย
จะมีส่วนร่วมซักเท่าไหร่ ดังนั้นผมและโมชจึงปลีกตัวออกมาเตรียมของที่นำมาจากเมืองไทยเพื่อถวายให้ลามะ สิ่งนั้นคือพระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกธาตุและ
พระอรหันตธาตุ โดยเจดีย์ที่นำมาบรรจุนั้นเป็นเจดีย์ทรงไทยสีทอง ออกแบบโดยอาจารย์เติ๊บจากบริษัทกนกพันธุ์ พันธมิตรใหม่ของชมรมฯ โดยเจดีย์นี้มีที่
บรรจุ 2 ชั้น ชั้นล่างบรรจุ พระอรหันตธาตุ ส่วนชั้นบนเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
            เมื่อพวกเราเตรียมเสร็จเจดีย์ที่บรรจุเสร็จเรียบร้อยแล้ว เผอิญคุณ DELGERMAA เดินผ่านเข้ามาในห้องพอดีผมจึงถามคุณ DELGERMAA ว่า
 โมชควรจะถวายพระบรมสารีริกธาตุให้ลามะที่ไหนดี คุณDELGERMAA จึงแนะนำพวกเราให้ถวายลามะภายในวัด และคุณ DELGERMAA ก็พาพวกเรา
เข้าไปในห้องๆหนึ่ง ซึ่งห้องนี้น่าจะเป็นห้องสวดมนต์ และเผอิญว่าลามะทั้ง 2รูปสนทนากับคุณอากรรณิการ์เสร็จพอดี ลามะภูริบัดจึงพาครอบครัวคุณอาเข้ามาไหว้
พระในวัด จึงเป็นโอกาสดีที่พวกเราตัวแทนทั้ง 5คน ร่วมถวายพระบรมสารีริกธาตุด้วยกันทั้งหมดไว้ที่หมู่บ้าน BORNOR
แห่งนี้ อ้าว!.....ท่านผู้อ่านร่วมอนุโมทนาสาธุด้วยกันนะครับ “อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ^^”
  
  
  
ปราโมช คุณอาเจริญและคุณอากรรณิการ์ ร่วมถวายพระบรมสารีริกธาตุแก่ลามะภูริบัดและรองพระสังฆราช
นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมวัดมีโอกาสร่วมรับพรจากลามะกันทุกคน "อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ"
               หลังจากถวายพระบรมสารีริกธาตุเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากวัดแห่งนี้มีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่ลามะภูริบัดเคยรวบรวมสิ่งของต่างๆ ท่านลามะจึง
พาพวกเราทั้งหมดเยี่ยมชมสิ่งของต่างๆ มีทั้งสมุนไพร ก้อนหิน แร่ธาตุ กระดูกสัตว์ ฟอสซิล ขนสัตว์ต่างๆ เขาสัตว์ อาวุธโบราณเช่น หัวลูกศร
 ดาบ หัวหอก ชุดนักรบสมัยเจงกีสข่าน และกะโหลกไดโนเสาร์ ท่านลามะพวกพวกเราเข้าชมทีละห้องๆ จนถึงห้องสุดท้าย เห็นแล้วขนลุกสุดๆ
เพราะเป็นห้องที่เก็บกะโหลกมนุษย์ซึ่งเป็นกะโหลกของลามะในที่ถูกฆ่าตายในปี 1936และมีเยอะมาก......ทำไมลามะสมัยนั้นถึงถูก
ฆ่าตายมากมายเพียงนี้ ผมจะเฉลยให้ฟังในอีก 2 ตอนข้างหน้านะครับ
  
 
  
 
  
 
  
   
            คุณ DELGERMAA และลามะภูริบัดพาพวกเราเข้าชมห้องต่างๆที่ลามะภูริบัดรวบรวม โบราณวัตถุ เขาสัตว์ ซากฟอสซิสต่างๆทั้งที่มาจากประเทศมองโกเลียและ ต่างประเทศเพื่อการศึกษาครับ
ส่วนภาพสุดท้ายปราโมชกำลังแผ่เมตตาให้แก่ลามะที่ถูกฆ่าตายช่วงประมาณปี
1936 ครับ
          
        
ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้นิยมใช้ม้าเป็นพาหนะในการเดินทางครับ
เมื่อการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เสร็จสิ้น คุณคิมพาพวกเราทั้งหมดไปรับประทานอาหารกลางวันที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดนี้ คุณคิมพา
พวกเราทั้งหมดเข้าไปในห้องรับแขกของบ้านหลังนี้ซึ่งที่ห้องรับแขกมีเตียงนอนด้วย นั่นหมายความว่าห้องนอนกับห้องรับแขกเป็นห้องเดียวกัน
บ้านของชาวมองโกเลียมีขนาดไม่ใหญ่และมีแค่ชั้นเดียว ไม่มีการต่อท่อน้ำเข้าไปในบ้านและไม่มีห้องน้ำภายในบ้านเลย ห้องน้ำอยู่นอกบ้าน
ทุกหลัง ไม่มีเตาแก๊ส ไม่มีตู้เย็น ประชาชนที่นี่นิยมใช้เครื่องซักผ้าแบบเปิดฝาบน ฐานะของชาวชนบทในมองโกเลียไม่ได้ดูที่ขนาดของบ้านว่า
ใหญ่โตหรือไม่แต่ดูที่อาณาเขตของบ้านที่ล้อมรั้วไว้ ใครที่มีที่ดินกว้างว่าก็แสดงว่ามีฐานะมากกว่า
ระหว่างที่พวกเรารออาหารมื้อแรกแห่งการมาเยือนประเทศมองโกเลีย คุณคิมพาคุณตาคุณยายซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เข้ามารับประทาน
อาหารกับพวกเราด้วย คุณตาคุณยายทั้งสองท่านเป็นบิดา มารดาของท่านลามะภูริบัด และบ้านหลังนี้ก็เป็นบ้านเกิดของลามะนั่นเอง อาหาร
ค่อยๆถูกเสิร์ฟโดยผู้หญิงท่านหนึ่ง ซึ่งคุณคิมแนะนำให้พวกเราทราบว่า ผู้หญิงคนนี้คือลูกสาวของคุณตาและคุณยาย และเป็นน้องสามีของคุณคิม
 เลยทำให้ผมพึ่งจะรู้ว่าคุณคิมเป็นภรรยาของลามะภูริบัดนี่เอง
            อาหารมื้อแรกที่พวกผมได้ทานกันมี โยเกิตแท่ง (Eerzgii) เนยแข็ง (Roaa Aarol) แผ่นเนยทอดแช่น้ำนม
(Khailmag) ขนมปังก้อนแข็งเป๊กพร้อม Salami (เป็น Salami แบบเดียวกับพิซซ่า) ก๋วยเตี๋ยวน้ำแบบมองโกเลีย
(เส้นบะหมี่แบนมีเนื้อและมันเทศ) แถมด้วยกิมจิอาหารประจำชาติของคุณคิม ส่วนเครื่องดื่มมี 2 อย่าง อย่างแรกคือวอดก้า กระดกแก้วเพรียวๆ
กับคุณตาพอเป็นพิธีซัก 2 จอกครับ ส่วนเครื่องดื่มอย่างที่สองคือ น้ำแร่ธรรมชาติ พอดื่มเข้าไปแล้วเหมือนดื่มโซดาเลยเพราะซ่าเหลือเกิน
คุณคิมบอกว่าน้ำแร่ที่นี่จะมีแร่ธาตุชนิดหนึ่งซึ่งทำให้น้ำแร่ชนิดนี้ความซ่ามาก
  
   
ถ่ายภาพหมู่กับคุณพ่อคุณแม่ของลามะภูริบัด
ภาพที่สองคือ แตงกวาดอง
ภาพที่3คือขนมปังก้อนแข็งเป๊กและทอฟฟี่
ภาพที่4 คือ แผ่นเนยทอดแช่น้ำนม (Khailmag) รสชาติหวานมัน
ภาพที่5 คือ Salami
ภาพที่6 คือ กิมจิ
ภาพที่7คือ โยเกิตแท่ง (Eerzgii) และเนยแข็ง (Roaa Aarol)
ส่วนก๋วยเตี๋ยวน้ำแบบมองโกเลีย (เส้นบะหมี่แบนมีเนื้อและมันเทศ)ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เนื่องจาก ผมหิวจัดจึงรีบซัดเข้าท้องจนหมดทันทีเลยลืมนึกไปว่าต้องถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยอ่ะ
              ผมเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าทุกครั้งที่ผมและโมชทักทายผู้คน ณ.ที่แห่งนี้ เราทั้งสองจะทักทายด้วยการยกมือไหว้ สวัสดี กับทุกคน แต่เอ๊ะ!
แล้วทำไมพวกเราไม่ทักทายชาวมองโกเลียเป็นภาษามองโกเลียล่ะ ผมจึงถามคุณคิมว่า คำว่าสวัสดีในภาษามองโกเลียพูดอย่างไร
“SAIN BAINAU” อ่านว่า ซานบายเหนอะ เป็นคำที่จำยากมากสำหรับผมและโมชในช่วงแรก แต่เราทั้งสองก็พยายามที่จะทักทาย
คำนี้กับชาวมองโกเลียทุกครั้งจนจำคำนี้ได้ขึ้นใจเลยทีเดียว
                หลังจากที่อิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยแล้ว พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน คุณคิมพาผมและโมชเข้าไปนอนในกระโจมซึ่งอยู่
หน้าบ้านของคุณตาคุณยายนี่เอง ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านคงรู้จักกระโจมของชาวมองโกเลียผ่านละครเรื่องเจงกีสข่านที่ถ่ายทอดผ่านช่องไทยพีบีเอส
พอผมได้หลับนอนในกระโจมหลังนี้แล้วอยากจะบอกกับทุกท่านว่า กระโจมน่านอนมาก อากาศภายในกระโจมไม่ร้อนเลยทั้งๆที่เป็นช่วงบ่าย
แดดเปรี้ยงๆเลย ลักษณะด้านในของกระโจมจะมีเตาเผาฝืนและปล่องระบายควันอยู่ตรงกลางของกระโจม ส่วนผนังของกระโจมทำด้วย
หนังสัตว์ ประตูทางเข้าสูงเพียงเมตรเดียวเอง มีผ้าใบรองพื้นภายในกระโจม ถึงแม้ว่ากระโจมแบบนี้จะไม่มีหน้าต่างระบายอากาศแต่บริเวณ
ขอบล่างของกระโจมโดยรอบนี้สามารถพับผ้าใบขึ้นมาเพื่อระบายอากาศได้
  
ภายในกระโจมที่ผมเข้าไปนอนเอาแรงครับ ประตูทางเข้าเตี้ยมั่กๆ ถ้าสังเกตตรงประตูทางเข้า ผ้าในจะถูกยกขึ้นมาหน่อยนึงเพื่อระบายอากาศ
และ ตรงยอดของกระโจมก็มีรอระบายอากาศด้วยครับ
 
            ครึ่งชั่วโมงผ่านไปคุณอาเจริญเข้ามาปลุกผมและโมชเพื่อเข้าชมการแข่งขันมวยปล้ำประจำหมู่บ้านเนื่องในเทศกาล
NADAAM FESTIVAL บริเวณจัดการแข่งขันมวยปล้ำเป็นเพียงลานหญ้าโล่งๆและมีเต้นท์ล้อมรอบให้ผู้คนในหมู่บ้านและ
นักท่องเที่ยวเข้ามานั่งชม สำหรับกติกาการแข่งขันมวยปล้ำในเทศกาล NADAAM FESTIVAL นั้นง่ายนิดเดียว เพียงแค่จับทุ่มคู่ต่อสู้
ให้หลังแตะพื้นโดยไม่มีการชก เตะ หรือตบใดๆทั้งสิ้น ใช้เพียงไหวพริบ ความแข็งแกร่งและความเร็วในการท่ามคู่ต่อสู้ ก็คล้ายๆกับกีฬามวย
ปล้ำที่ใช้แข่งในกีฬาโอลิมปิกนี่แหละครับเพียงแต่ไม่มีเส้นแบ่งเขต แต่แตกต่างจากมวยปล้ำเพื่อความบันเทิงอย่าง SMACK DOWN และ
RAW ZONE โดยสิ้นเชิงเลยนะครับ
               
  
         ผู้แข่งขันจะต้องรำไหว้เทพเจ้าก่อนเริ่มการแข่งขัน โดยท่าไหว้ของผู้แข่งขันทั้งสองจะเหมือนกับท่านกบิน
  
 
  
   
                  บนลานหญ้าที่ใช้ในการแข่งขันจะมีนักกีฬามวยปล้ำเข้ามาปล้ำในเวลาเดียวกันหลายคู่ โดยมีกรรมการคอยตัดสินในแต่ละคู่ซึ่งเป็นผู้อาวุโสคอยกำกับดูแล การแข่งขันไม่มีเวทีหรือเส้นแบ่งเขตใดๆทั้งสิ้น ไม่มีเวลากำหนด นักกีฬาคนใดที่ปล้ำแพ้ก็จะตกรอบทันที ส่วนนักกีฬาที่ชนะก็จะไปนั่งพักผ่อนรอคู่ต่อสู้ที่ชนะจากคู่อื่นมาเจอกัน เมื่อปล้ำเสร็จคู่หนึ่ง นักกีฬาอีกคู่จะลงมาที่สนามทันที โดยก่อนการแข่งขันนั้นคู่ต่อสู้ทั้งสองในชุดต่อสู้พร้อมหมวกทรงมองโกเลีย จะรำไหว้เทพขุนเขา ด้วยการกางแขนแล้วรำเหมือนท่านกบินเดินวนไปมาประมาณสองสามรอบ เมื่อรำเสร็จแล้วคู่ต่อสู้ทั้งสิงจเดินไปหากรรมการให้กรรมการถอดหมวกออกและเริ่มปล้ำต่อสู้กัน คู่ต่อสู้ที่ตัวเล็กใช่ว่าจะแพ้คู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่กว่าเสมอไป ผมเห็นหลายคู่ที่นักกีฬาตัวเล็กกว่าปล้ำชนะนักกีฬาตัวใหญ่กว่า และผู้ชมมักจะชอบเชียร์คนตัวเล็กกว่าเวลามีลุ้นปล้ำจะชนะทีไรมีเสียงเฮขึ้นมาตลอดเลย พวกผมนั่งชมการแข่งขันประมาณครึ่งชั่วโมงคุณคิมพาพวกเราไปเดินเล่นบริเวณโดยรอบสนามแข่งขัน และมีชาวบ้านมากมายที่สนุกกับการขี่ม้าไปมา โดยเฉพาะเด็กๆ เด็กที่นี่อายุเพียง 5 ขวบก็ขี่ม้าเป็นแล้ว ภาพชาวบ้านที่ขี่ม้าไปมาบนลานหญ้าและเนินเขาเป็นภาพหาดูได้ยากมากในเมืองไทย ผมจึงไม่รอช้ากับการถ่ายภาพโดยทันที
  
 
หลังจากที่ชมมวยปล้ำกันเสร็จแล้วคุณคิมพาพวกเราไปเดินเล่นและยิงธนูต่อ
 
        คืนนี้พวกเราทั้งห้าไม่ได้นอนค้างที่หมู่บ้าน BORNOR ประมาณ หกโมงเย็น (แต่แสงแดดเหมือนบ่ายสามโมงเย็นของประเทศไทยเลย) คุณคิมพาพวกเรากลับไปที่วัดประจำหมู่บ้านอีกรอบเพื่อรับลามะภูริบัด จากนั้นพวกเราทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปที่ DUGANKHAD CAMP รีสอร์ทซึ่งพวกเราควรจะได้พักในคืนแรกถ้าไม่ตกเครื่องบินที่ประเทศจีนเสียก่อน ทัศนียภาพระหว่างเดินทางไปที่รีสอร์ทแห่งนี้จะมีความต่างจากสนามบินมาที่เมือง BORNOR ตรงที่สองข้างทางผมจะเห็นลำธารเยอะมาก มีผู้คนมานั่งปิคนิกกันริมธารอยู่เป็นจำนวนมาก และผมเริ่มเห็นต้นไม้แล้ว ซึ่งเป็นต้นสน
 
 
         
                  พวกเราแวะเข้ามารับลามะภูริบัดที่วัดอีกรอบจึงมีโอกาสได้มาถ่ายรูปกับผู้เถ้าผู้แก่ และถ่ายห้องน้ำไว้ดูเล่น
              ประมาณสองทุ่มพวกเราก็มาถึงที่พัก แสงแดดตอนสองทุ่มของที่นี่เหมือนห้าโมงเย็นบ้านเราเลยครับ พระอาทิตย์ในฤดูร้อนของประเทศมองโกเลียจะตกช้ามากครับ ประมาณสี่ทุ่มถึงจะลับขอบฟ้า ที่พักคืนแรกของพวกเราเป็นกระโจมแบบมองโกเลียครับ ที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำ คนมองโกเลียไม่นิยมอาบน้ำครับ เพราะไม่มีน้ำให้อาบเนื่องจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่ของที่นี่มีน้อยมากครับ มีแต่ลำธารที่เกิดจากการละลายของหิมะบนยอดเขาและฤดูร้อนของประเทศนี้ก็ไม่ค่อยร้อนเลยครับ แม้ไม่มีห้องอาบน้ำให้อาบ สำหรับผมแล้วก็ไม่เป็นไรครับ แต่ผมดีใจมากที่ผมเจอส้วมชักโครกแล้วผมจึงไม่รีรอที่จะถ่ายหนักเลย เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีโอกาสได้ใช้ส้วมแบบชาวบ้านในวันไหนบ้าง จึงต้องรีบเคลียร์สต๊อกในลำไส้ใหญ่ออกไปให้หมดอ่ะครับ^^
   
 
              ถึงที่พักแล้วจ้า!!!! พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า พระจันทร์ก็เลยขึ้นแทน พระจันทร์ช่วงวันวิสาขบูชางดงามยิ่งนัก พระจันทร์ที่นี่ดวงโตกว่าเมืองไทยเยอะเลยอ่ะ

 

   

    

อาหารมื้อเย็นของพวกผมครับ และก่อนนอนพวกเรามาเผาฝืนนอนในกระโจมกัน^^

ติดตามชมสองเงาในมองโกเลียตอนที่๗ได้เร็วๆนี้นครับ




กิจกรรมของชมรมฯ

2 มกราคม 65 คุณ Sayam Sretkit ถวายสังฆทานรวมถึงถวายพระพุทธรูปที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ วัดพระธาตุจอมแจ้งต.ทุ่งยาวอ.ปายจ.แม่ฮ่องสอน
1 มกราคม 65 ถวายตู้พระบรมสารีริกธาตุและอรหันต์ธาตุ รวม 743วัด
1 มกราคม 65 คุณ Veerapol Teeravorn บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ๔๒ องค์ สมเด็จองค์ปฐม หล่อถวายวัดดอยเสด็จ จ.เลย
30 ธันวาคม 64 นำตู้พระบรมฯ(โครงการตู้บุญไม่จำกัดปี7)
27 ธันวาคม 64 มอบพระบรมสารีริกธาตุจำนวน 30 องค์ พระธาตุพระสีวลีจำนวน 3 องค์ ณ วัดราษฎรอุทิศ จังหวัดร้อยเอ็ด
23 ธันวาคม 64 บรรจุ​พระบรม​สารี​ริก​ธาตุ​ในองค์สมเด็จ​องค์​ปฐม 4 แห่ง
23 ธันวาคม 64 น้อมถวายตู้​พระบรมธาตุ​ชมรม​รักษ์​พระบรมธาตุ​แห่ง​ประเทศไทย​อัญเชิญ​ประดิษฐาน​ในองค์​พระธาตุ​พนม​บรมเจดีย์
20 ธันวามคม 64 จากโพสต์ คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ถวาย พระบรมสารีริกธาตุพระสงฆ์ 250 รูป มาร่วมงานบุญทอดผ้าป่าสภาสงฆ์จังหวัดเลย ประจำปี 2564 (รอบที่ 4 อำเภอที่11) ทอดถวาย ณ วัดแสงอรุณ บ้านกลาง ต.เชียงกลม จ เลย
10-19 ธันวาคม 64 จากโพสต์ คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบเจดีย์ผอบทอง เจดีย์ผอบใส ผอบทองเหลือง พานรองเจดีย์ เพื่อน้อมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
18​ ธันวาคม​ 64 ถวายพระบรมธาตุ​ในองค์พระเจดีย์​ แด่หลวงปู่ครูบาอินแก้ว สำนัก​สงฆ์​ถ้ำอ่างสลุง​ แม่ระมาด​ ตาก
18 ธันวาคม 2564 บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระปัจเจก​พระพุทธ​เจ้า พระอรหันตสาวกธาตุ และ​วัตถุ​มงคลต่างๆ ณ วัดบ้านหนองเปือยน้อย ตำบลกู่สันตรัตน์ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
12 ธันวาคม 2564 คุณ Ka Taew NK น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระปัจเจก​พระพุทธ​เจ้า พระอรหันตสาวกธาตุ พระครูโสภณสมณกิจ (หลวงปู่บุญจันทร์ ดำ สีลคุโณ) วัดป่ามณีศรีโคตมวงษ์ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี
11 ธันวาคม 64 ถวายพระบรมสารีริกธาตุ​ ณ วัดบ้านป่าเหว อ.เมืองปาน จ.ลำปาง.
12 ธันวาคม 2564 น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุในแดนพุทธภูมิ บรรจุ ในองค์พระ ณ วัดปากน้ำโพเหนือ นครสวรรค์
8-9 ธันวาคม 2564 น้อมถวายสมเด็จองค์ปฐมหลวงปู่ 82 องค์ ถวายสังฆทาน กาแฟ ณ วัดพระธาตุพนม
10 ธันวาคม 2564 คุณ Ka Taew NK ถวายพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระปัจเจก​พระพุทธ​เจ้า พระอรหันตสาวกธาตุหลวงปู่คลาด ครุธัมโม เพื่อประดิษฐานไว้ในพระเจดีย์ศรีภูพระบาท ทรงจักรีฉัตร 9 ชั้น วัดป่าบ้านใหม่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
7 ธันวาคม 64 ถวาย​ พระบรมธาตุ​​พระอาจารย์​ฐิติ​นันท์​ คำนวน​ ท่านเจ้าอาวาสวัดอุมลอง
8 ธันวาคม 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ น้อมถวายพญาครุฑทอง น้อมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ19 องค์ ที่โรงงานรุ่งเรืองศิลป์หล่อพระ
5 ธันวาคม 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานในองค์พระ
2-4 ธันวาคม 64 คุณพเยาว์ศรี โครตวงษา ( แม่น้อย) เป็นตัวแทนไปมอบถวาย พระบรมสารีริกธาตุ วัดป่าสมบรูณ์ธรรม, วัดพระธาตุแช่แห้ง และ วัดสันก้างปลา
4 ธันวาคม 2564 จากโพสต์ คุณ Ka Taew NK ถวายพระบรมสารีริกธาพระสมุห์สมศักดิ์ กิตฺติสารเมธี วัดศรีบุญเรือง ตำบลวังสะพุง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย
2 ธันวาคม 2564 จาก โพสต์ คุณ Dadra Rada Flower ถวายพระบรมสารีริกธาตุแด่ท่านเจ้าอาวาส @วัดถ้ำพระธาตุ(สายเอก) ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี
28-11-64 ถวายพระบรมธาตุแด่ พระอาจารย์ ไมเคิล วังชุก นิกายวชิรญาณ ไปประดิษฐาน วัด Utok Goumpa monastry at Paro ณ ประเทศภูฏาน​ไปประเทศ​ภูฏาน​
28 พฤษศจิกายน 64 จากโพสต์ พระณัฐพล ปญฺญาวุฑฺโฒ ภิกขุ ได้รับพระธาตุเพื่อบรรจุพระสถูปเจดีย์จากชมรม ณ วัดเตาปูน ตำบล ห้างฉัตร อำเภอ ห้างฉัตร จังหวัด ลำปาง.
29 พฤษศจิกายน 64 จากโพสต์ พระสุยาพร ภูริปญฺโญ มอบถวายพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันธาตุและผอบแก้ว ท่านพระครูสิริธรรมบัณฑิต,ผศ,มหาลัยสงฆ์นครลำปาง
29 พฤษศจิกายน 64 จากโพสต์ คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ถวายพระแก้วแดง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ ณ สถานธรรมพุทธพรหมปัญโญ สาขา จ.แพร่
#สรุปงานบุญกฐินชมรมรักษ์ปี2564
21​ พฤศจิกายน​ 64 ร่วม หล่อพระบรมไตรโลกนาถ​ หลวงปู่​ทวด​ หลวงปู่โต​ หลวงปู่มั่น​ หลวงปู่ครู​บาศรี​วิชัย ณ วัดป่า​ชุมพลบุรี​ จ.สุรินทร์
22 พฤษศจิกายน 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุหล่อหลวงปู่ดู่หน้าตัก 5 เมตร 59 องค์ บรรจุองค์พระจักรพรรดิ 9 องค์
22 พฤษศจิกายน 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบพระบรมสารีริกธาตุ ถวายหลวงปู่ทิวา อาภากโร ศูนย์ปฎิบัติธรรมเสริมรังสี อ.ปากช่อง จ.นครราชศรีมา
24 พฤษศจิกายน 64 คุณ Therdthai X Khamtad อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ๙๘ องค์ ถวายหลวงปู่บุญศรี จันทโชโต วัดป่าหินฮาวสังฆมณีศรีธันดร จ.มหาสารคาม
17 พฤษศจิกายน 64 คุณ Therdthai X Khamtad อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุพระเกศพระสมณโคดมหน้าตัก40นิ้ว ประดิษฐานที่อาคารปฎิบัติธรรม วัดพระธาตุพนม
17 -11-64 กฐิน​วัดป่าชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์​ พวกเราน้อมถวาย​ ๓๒,๐๐๐​ บาท
วันที่ 17 พฤษศจิกายน 64 กลุ่มบัวผลิหน่ออัญเชิญพระบรมธาตุ พระอรหันตธาตุจากชมรมฯบรรจุในเจดีย์หินอ่อนถวาย สำนักสงฆ์ถ้ำพระธาตุเจริญธรรม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
17 พฤษศจิกายน 64 พระอาจารย์ชุมพล บุญจันทร์ถวายพระบรมสารีริกธาตุ และร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี แก่ท่านพระครูประทีปปัญญาวุธ จต.ละทาย จร.วัดบ้านโอ้น
14 พฤศจิกายน 64 บุญกฐิน อริยะแห่งพุทธประเพณี​ ณ​ วัดกู่สุวรรณ​วนาราม
14 พฤศจิกายน 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานบรรจุหล่อองค์พระประธานเนื้อโลหะ ในงานบุญกฐิน วัดป่าปทุมสิราวาส อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
14 พฤศจิกายน กฐิน ณ.วัดแหลมตะลุมพุก ม.1ต.แหลมตะลุมพุกอ.ปากพนังจ.นครศรีธรรมราช (กฐินสามัคคียอดรวมสุทธิ 246144บาท)
11-11-21 อัญเชิญ​พระบรมธาตุ​ พระธาตุบรรจุเจดีย์​ 28​ องค์​ วัดพระธาตุศรี​เวียงชัย​ ลำพูน​, พระบรมธาตุ​และพระอรหันต​ธาตุ​ไปประดิษฐาน​ วัดพนมปรำพิล ประเทศกัมพูชา​
วันที่ 12 พ.ย 64 ณ Therdthai X Khamtad อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อบรรจุพระ
สนจักร์ มอบพระบรมสารีริกธาตุห้คุณสมชาย งามสวย เพื่อน้อมอัญเชิญประดิษฐานองค์พระ และมอบถวายพ่อแม่ครูบาอารย์ ในช่วงงานกฐิน ปี 2564
วันที่ 9 พ.ย 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบพระบรมสารีริกธาตุ ถวายท่านพระครูสังฆรักษ์ พชรพล วิถีธรรม วัดโพธิ์ชัย บ.นาไก่ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู
วันที่ื 7 พ.ย. 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบถวายพระบรมสารีริกธาตุถวายพระอาจารย์เสกสรร ถวายวัดดอยข่อยเขาแก้ว อ.เมือง จ.ตาก
วันที่ 9 พ.ย 64 บรรจุ​พระบรมธาตุ​พระอรหันต​ธาตุ​ สำนักธรรมจาริก​ดอยมูเซอ บ้านแม่ท้อ​ จังหวัดตาก
วันที่ 30 ตุลาคม 64 คุณ Therdthai X Khamtad อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุยอดพระเกศพระรัตนสัมภวะพุทธะ
วันที่ 31 ตุลาคม 2564 บุญกฐินวัดป่าดงยางใหญ่
วันที่ 25 ตุลาคม 64 โครงการตู้บุญไม่จำกัดปี7 ถวายตู้พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุโดยอัญเชิญพระธาตุจากชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย
วันที่ 5 พฤศจิกายน 64 โครงการตู้บุญไม่จำกัดปี7 ถวายตู้พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุโดยอัญเชิญพระธาตุจากชมรมรักษ์พระบรมธาตุแห่งประเทศไทย
23-10-64 ชมรมฯ​น้อมถวายพระ​บรมส​า​รี​ริก​ธาตุ​ และ​พระอรหันต​ธาตุ​ วัดวชิร​ธรร​มา​วาส​ ลาดกระบัง
24-10-64 น้องเจ​สราวุฒิ​ สวัสดิ์​กลาง ร่วมเป็น​เจ้าภาพ​กฐินวัดหญ้าคา​ อำเภอโนนสูง​ นครราชสีมา
23 ตุลาคม 2564 คุณธิดาพร อยู่คล้าย อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตธาตุ ประดิษฐาน ณ วัดวงษ์เพชร ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี
24 ตุลาคม64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ถวายปัจจัยร่วมบุญกฐิน ปี 2564 วัดถ้ำเมืองนะ และ พระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ และพระจักรพรรดิปิดทอง
23 ตุลาคม 64 กลุ่มสะพานบุญ นำตู้พระบรมฯ(โครงการตู้บุญไม่จำกัดปี7)ถวายตู้พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ
22 ตุลาคม 64 จากโพสต์ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ ที่วัดหลวงพ่อใส น้อมถวายพระพุทธเจ้าปางจักรพรรดิ 5 พระองค์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุรวม 45 องค์ รอบพระธาตุพนม
13 ตุลาคม 2564 เข้าร่วมพิธีอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ, พระอรหันตธาตุ, อัฐิธาตุ พระอริยสงฆ์ องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ขึ้นประดิษฐาน ณ เจดีย์ "รังสีรัตนเจดีย์" ในวิหารบูรพาจารย์ วัดรังสีรัตนวารี (วัดป่าเชิงเลน)
19​ ตุลาคม​ 64 น้อมถวายพระ​บรมส​า​รี​ริก​ธาตุ​ พระปัจเจก​พระ​พุทธเจ้า​พระอรหันต​ธาตุ ณ​ เจดีย์​ทันใจ​ วัดเสม็ดใต้​ อ.บางคล้า​ จ.ฉะเชิงเทรา​
17 ตุลาคม 64 คุณอรพรรณ ขัมภรัตน์ อัญเชิญพระบรมธาตุและพระอรหันตธาตุถวายวัดถ้ำขุนแผน จ.กาญจนบุรี
17 ตุลาคม 64 จากโพสต์ คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบพระบรมสารีริกธาตุ ให้คุณแม่ชีต่าย 9 องค์ ร่วมหล่อพระพุทธเจ้าหน้าตัก 2 เมตร ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
12 ตุลาคม 64 น้อมถวายพระบรมธาตุ พระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระอรหันตธาตุ บรรจุในองค์พระพุทธรูป ๒ องค์ ซ้าย ขวา หน้าพระวิหาร วัดโป่งทองชัยพัฒนาราม บึงกาฬ.
11 ตุลาคม 64 ถวายพระบรมธาตุแด่ 6 วัด
29 กันยายน 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ถวายพระแก้วทอง และพระแก้วมรก พร้อมด้วยพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ 2 ชุด และพญาครุฑ 2 ตน ที่สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าหก ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
29 กันยายน 64 MadameJin Newlife คุณแม่มณียา ณ อุบล ถวายพระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ธาตุ ณ วัดป่าอุดมธรรมทักษิณาราม จ.ยโสธร
26 กันยายน 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ถวายพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์ วัดกอม่วง ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน
24 กันยายน 64 เทอดไทได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ๑๐๐องค์ ถวายพระครูอรรถสารโสภิต
23 กันยายน 64 คุณ Therdthai X Khamtad อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ๗๙องค์ ถวายพระสุทธิธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดป่าวังเลิง
19 กันยายน 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ร่วมบุญกับพระอาจารย์ เสกสรร ที่ศาลหลักเมืองเขต เชียงใหม่-ลำพูน
21 กันยายน 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐาน ที่เศียรพระประธาน ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุบรรจุ 19 องค์ พระอรหันต์ธาตุ 6 องค์ ณ ศาลาปฎิบัติธรรม วัดป่าประสงค์ธรรม จ.เลย
21 กันยนยน 64 คุณ Therdthai X Khamtad ถวายพระบรมสารีริกธาตุ ๓๘ องค์ เจ้าอาวาสวัดหนองตูบ
19 กันยายน 64 คุณ Therdthai X Khamtad ถวายพระบรมสารีริกธาตุ ๑๐๘ องค์ ณ เจดีย์ วัดพุทธมงคล
18 กันยายน 64 คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุ9องค์ ที่วัดดอยอุดมธรรม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
18 กันยายน 64 คุณ Therdthai X Khamtad ถวายพระบรมสารีริกธาตุ ๗๘องค์พระเทพสิทธาจารย์
16 กันยายน 64 คุณ Therdthai X Khamtad ถวาย พระบรมสารีริกธาตุ ๓๘ องค์พระครูปลัดทรงศักดิ์ นิราลโย เจ้าอาวาสวัดป่าวังน้ำเย็น
๑๐​ กัน​ยายน ๖๔ ณ​ วัดป่าเขาภูหลวง วังน้ำ​เขียว​ นครราชสีมา​น้อมถวาย​ ธรรมจักร​บรรจุ​พระบรม​สารี​ริก​ธาตุ​ พระแก้วมรกต​เลี่ยม​ทอง ปู่บุญ​ส่ง​ ฐิต​
8 กันยายน 64 โดย คุณณัฐชานันท์ สัจจะวรโภคิน ถวายตู้พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ โครงการตู้บุญไม่จำกัดปี7
30 สิงหาคม 64 โดย คุณณัฐชานันท์ สัจจะวรโภคิน ถวายตู้พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุ โครงการตู้บุญไม่จำกัดปี7
28 ส.ค. 64 จากโพสต์ MadameJin Newlife อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ถวายแด่ท่านพระครูอินทชัยคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย ต.ศรีธาตุ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี
28 ส.ค. 64 สายบุญ คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ถวายผอบทองเหลือง -เพื่อน้อมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอาจารย์เสกสรร จิรธฺมโม ภักดีผล ถวายหลวงตาม้า
25/8/61 ถวายตู้พระบรมธาตุและเจดีย์ หลวงปู่ทอง ณ วัดมหาธาตุ ฯ
26 ส.ค. 2561 ถวายผอบเจดีย์ประดิษฐานอัฐิหลวงปู่ฝั้น วัดถ้ำขาม สกลนคร
20 ส.ค. 64 กลุ่มสะพานบุญที่ให้ความอนุเคราะห์พระบรมฯและพระธาตุ นำถวายตู้พระบรมฯ(โครงการตู้บุญไม่จำกัดปี7)ถวายตู้พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต์ธาตุโดย คุณณัฐชานันท์ สัจจะวรโภคิน(อุ๋ม)
18 สิงหาคม 2563 ซ่อมแซม บูรณะ​ องค์​พระพุทธ​จักรพรรดิ​รัตน​วร​มหา​มุ​นี
17 สิงหาคม 2564 สายบุญคุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ถวายพระแก้ว-ทอง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
15-16 สิงหาคม 2564 สายบุญคุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ มอบพระสมเด็จองค์ปฐมและพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุ ผอบเจดีย์ใส ให้กับนักบิน-ตชด
16-8-63 , 17​-8-62, 17-8-59 กิจกรรมน้อมถวายพระบรมธาตุ
16 สิงหาคม 2564 จากโพสต์ MadameJin น้อมถวาย พระบรมสารีริกธาตุ และสมเด็จองค์ปฐม ณ วัดโพธิ์ชัย ต.นายูง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี
12​ สิงหาคม​ 64 น้อมถวายเจดีย์บรรจุสมเด็จองค์​ปฐม​พร้อมด้วย​อัญมณี​นพรัตน์​ แด่ท่าน​พระอาจารย์​วร​ชัย​ วร​ชโย​ ท่านเจ้าอาวาสวัดดงยางใหญ่
27-6-58 ณ​ วัดแม่อ้อใน อ.พาน จ.เชียงราย น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันต​ธาตุ​ จำนวน ๒๒ วัดแด่พระครูอุดมพัฒนสุนทร
9 สิงหาคม 2564 คุณ​พรรณทิพย์​น้อมถวายเจดีย์พระธาตุที่วัดถ้ำปากเปียง จ.เชียงใหม่
10​ สิงหาคม​ 58​ ชมรมรักษ์พระบรมธาตุฯ​ น้อมถวายพระบรมธาตุถวายหลวงปู่ท่าน
12 สิงหาคม 2564 จากสายบุญ คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ ถวายพระแก้วแดง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ โรงพยาบาลสันป่าตอง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
14 สิงหาคม 2561 น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ บรรจุเจดีย์ภูถ้ำม่วง บ้านไพรสวรรค์ ต.สารภี อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี
12 สิงหาคม 2563 น้อมถวายพระบรมธาตุ และพระอรหันตธาตุ ณ วัดกระโจมทอง จ.นนทบุรี
5-08-63 คัดพระบรมให้ท่านสมาชิก ที่ร่วม​กิจกรรม​ 28 ท่าน ถวายบรรจุ​พระพุทธ​รูป​ บรรจุ​เจดีย์​ วัดอัมพวัน​บ้านม่วง
7-08-64 สายบุญ คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ องค์พระจักรพรรดิ ณ สถานธรรมวิปัสสนา สถานพรหมปัญโญ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
3​ สิงหาคม​ 2564 น้​อมถวายพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ​แด่พระอดิเรก​ ธิตเมโธ​ เพื่อบรรจุเจดีย์​วัดเหล่าภูน้อย จังหวัด​กาฬสินธุ์
4-08-64 ถวายพระ​บรมส​า​รี​ริก​ธาตุ​แด่พระครูอนุ​พัทธ​ถ​ิ​ร​ธรรม​ ฐิต​ธั​มโม​ วัดเมือง​แป​ง จังหวัด​แม่ฮ่องสอน
ตู้บุญก.ค.64 กลุ่มสะพานบุญ โดย คุณณัฐชานันท์ สัจจะวรโภคิน(อุ๋ม)
26-7-64 สายบุญ คุณ รัชฎาภรณ์ แสนจักร์ น้อมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ณ​ วัดพระธาตุพนมอเมริกา เมือง Yucca Valleys, California พิธีบรรจุพระสารีริกธาตุประดิษฐานไว้ที่พระธาตุพนมจำลอง



bulletHome
dot
ค้นหาบทความ

dot
dot
Pratat Gallery
dot
bulletอัลบั้ม กิจกรรมชมรมล่าสุด
bulletกิจกรรมชมรมฯ
dot
สมัครสมาชิกชมรมรักษ์พระบรมธาตุฯฟรี/apply for membership
dot
bulletกรอกรายละเอียดสมัครสมาชิก/applying click here
dot
ติดต่อสอบถาม/contact us
dot
bulletติดต่อสอบถามคลิ๊กที่นี่/Click here
dot
ห้องพระรัตนตรัย
dot
bulletห้องพระพุทธ(ตำนานและพุทธประวัติ)
bulletห้องพระธรรม
bulletห้องพระอริยสงฆ์
bulletพระธาตุเสด็จ
dot
เว็บพันธมิตร
dot
bulletพลังจิต
bulletอุณมิลิต
dot
เว็บธรรมะ
dot
bulletหลวงปู่มั่น
bulletหลวงตามหาบัว
bulletกฎแห่งกรรมของหลวงพ่อจรัญ
bulletหลวงพ่อครูบาเจ้าเพชรวชิรมโน
bulletเว็บเพื่อพระพุทธศาสนา
bulletโลกทิพย์
bulletตามรอยพระพุทธบาท
bulletศาลาปฎิบัติกรรมฐาน
bulletลานธรรมเสวนา
bulletพระไตรปิฎกฉบับประชาชน
bulletไทยแวร์ธรรมะออนไลน์
bulletวัดจันทาราม (ท่าซุง) จ.อุทัยธานี
bulletวัดพระธาตุพนม




Copyright © 2010 All Rights Reserved.